คู่มือเลือกประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ข้ามไปหน้าหลัก
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

คู่มือเลือกประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

02/2025
ประกันสุขภาพที่ไหนดี


ประกันสุขภาพที่ไหนดี? คำถามนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมีประกันสุขภาพไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน แต่ยังเป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตระยะยาว การมีประกันสุขภาพจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน แต่การเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีตัวเลือกมากมายในตลาด บทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ ประเภทต่าง ๆ และวิธีเลือกแผนที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
 

ประกันสุขภาพคืออะไร

ประกันสุขภาพ คือ สัญญาระหว่างผู้ทำประกันกับบริษัทประกัน ที่จ่ายเงินค่าเบี้ยประกันเป็นประจำ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ เปรียบเสมือนร่มชูชีพทางการเงินที่พร้อมกางออกเมื่อผู้ทำประกันต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่ไม่คาดคิด
 

ทำไมการมีประกันสุขภาพถึงสำคัญ

ประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพและการเงิน โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้

  1. รับมือค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
  2. ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาทางการเงินจากค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกินคาด
  3. ความสบายใจ สร้างความมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมเมื่อเจ็บป่วย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
  4. รองรับค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูง
  5. ลดภาระครอบครัว ช่วยลดภาระทางการเงินของครอบครัวในกรณีที่ต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล
  6. สิทธิประโยชน์ทางภาษี เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
  7. ครอบคลุมโรคร้ายแรง บางแผนให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง
  8. เสริมความคุ้มครองจากสวัสดิการรัฐ ช่วยเพิ่มความคุ้มครองนอกเหนือจากสิทธิประกันสังคมหรือสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐ

หากไม่มีประกันสุขภาพจะเป็นอย่างไร

การขาดประกันสุขภาพสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางการเงิน ในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ผู้ที่ไม่มีประกันสุขภาพอาจต้องเผชิญกับภาระทางการเงินที่สูงลิบ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินออมหรือแม้กระทั่งการเป็นหนี้ก้อนโต นอกจากนี้ การไม่มีประกันสุขภาพยังอาจส่งผลให้การเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพเป็นไปอย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น การผ่าตัดใหญ่หรือการรักษาโรคร้ายแรง ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด การเจ็บป่วยหนักโดยไม่มีประกันสุขภาพอาจนำไปสู่ภาวะล้มละลายทางการเงิน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

ประกันสุขภาพมีกี่แบบ เลือกแบบไหนที่เหมาะ

ประกันสุขภาพแบ่งออกเป็นหลัก ๆ 2 แบบคือ
 

1. ประกันสุขภาพกลุ่ม (Group Health Insurance)


ประกันสุขภาพกลุ่ม คือ ประกันสุขภาพที่องค์กรหรือนายจ้างจัดหาให้กับพนักงานหรือสมาชิกของกลุ่ม โดยทั่วไปแล้ว นายจ้างจะเป็นผู้รับภาระค่าเบี้ยประกันทั้งหมดหรือบางส่วน ลักษณะสำคัญของประกันสุขภาพกลุ่มมีดังนี้

  • ความคุ้มครอง มักจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงค่ายา ค่าห้องพัก และค่าผ่าตัด โดยอาจมีการกำหนดวงเงินความคุ้มครองตามระดับของพนักงาน
  • เงื่อนไขการรับประกัน มักจะไม่มีการตรวจสุขภาพหรือสอบถามประวัติสุขภาพก่อนรับประกัน ทำให้พนักงานทุกคนสามารถได้รับความคุ้มครองโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพปัจจุบัน
  • ต้นทุน เบี้ยประกันมักจะต่ำกว่าประกันสุขภาพส่วนบุคคล เนื่องจากการกระจายความเสี่ยงในกลุ่มใหญ่
  • ความยืดหยุ่น มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าประกันส่วนบุคคล เพราะแผนความคุ้มครองถูกกำหนดโดยองค์กร
  • การต่ออายุ มักจะต่ออายุเป็นรายปีโดยองค์กร และความคุ้มครองจะสิ้นสุดเมื่อพนักงานลาออกหรือเกษียณอายุ
     

2. ประกันสุขภาพส่วนบุคคล (Individual Health Insurance)


ประกันสุขภาพส่วนบุคคล คือ ประกันสุขภาพที่บุคคลทั่วไปสามารถซื้อได้ด้วยตนเอง โดยผู้เอาประกันเป็นผู้เลือกแผนความคุ้มครองและรับผิดชอบค่าเบี้ยประกันเอง ลักษณะสำคัญของประกันสุขภาพส่วนบุคคลมีดังนี้

  • ความคุ้มครอง มีความหลากหลายของแผนความคุ้มครอง ตั้งแต่แผนพื้นฐานไปจนถึงแผนที่ครอบคลุมสูง ผู้เอาประกันสามารถเลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของตนเอง
  • เงื่อนไขการรับประกัน มักจะมีการสอบถามประวัติสุขภาพและอาจมีการตรวจสุขภาพก่อนรับประกัน บริษัทประกันอาจปฏิเสธการรับประกันหรือเพิ่มเบี้ยประกันสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
  • ต้นทุน เบี้ยประกันมักจะสูงกว่าประกันสุขภาพกลุ่ม และจะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ และประวัติสุขภาพของผู้เอาประกัน
  • ความยืดหยุ่น มีความยืดหยุ่นสูง ผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนความคุ้มครอง วงเงินคุ้มครอง และสามารถเปลี่ยนแปลงแผนได้ตามความต้องการ
  • การต่ออายุ สามารถต่ออายุได้ตราบเท่าที่ผู้เอาประกันยังชำระเบี้ยประกัน และไม่ขึ้นอยู่กับสถานะการจ้างงาน
  • ความต่อเนื่อง ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องแม้จะเปลี่ยนงานหรือเกษียณอายุ ทำให้เหมาะสำหรับการวางแผนสุขภาพระยะยาว
     


รู้จักให้ลึกก่อนเลือกประกันสุขภาพแต่ละประเภท

1. ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย

ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเป็นรูปแบบที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมที่สุด โดยมีทั้งแบบที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งในกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ซึ่งแผนประกันประเภทนี้มักมีวงเงินคุ้มครองสูง ทำให้ผู้เอาประกันสามารถเลือกห้องพักและโรงพยาบาลได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ประกันแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเต็มรูปแบบและมีความพร้อมด้านงบประมาณ แม้จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าแบบอื่น แต่ก็ให้ความอุ่นใจสูงสุดในยามเจ็บป่วย
 

 

2. ประกันสุขภาพแบบเฉพาะโรค

ประกันสุขภาพแบบเฉพาะโรคเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเฉพาะด้านหรือต้องการเสริมความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันหลัก แผนประกันประเภทนี้จะคุ้มครองเฉพาะโรคที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน ด้วยลักษณะการคุ้มครองที่เฉพาะเจาะจง ทำให้เบี้ยประกันมักจะถูกกว่าแบบเหมาจ่าย แต่ยังให้ความคุ้มครองที่สูงสำหรับโรคที่ระบุ เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเฉพาะหรือต้องการเพิ่มความคุ้มครองสำหรับโรคที่กังวล
 

3. ประกันสุขภาพแบบชดเชยรายได้

ประกันสุขภาพแบบชดเชยรายได้มีลักษณะเด่นคือการจ่ายเงินชดเชยเป็นรายวันเมื่อผู้เอาประกันต้องนอนโรงพยาบาล รูปแบบนี้ช่วยบรรเทาผลกระทบทางการเงินจากการสูญเสียรายได้ระหว่างการพักรักษาตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่ไม่มีสวัสดิการวันลาป่วยแบบได้รับค่าจ้าง แม้ว่าประกันประเภทนี้อาจไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลโดยตรง แต่เงินชดเชยที่ได้รับสามารถนำไปใช้จ่ายได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันระหว่างพักฟื้น
 

4. ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองโรคร้ายแรง

ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองโรคร้ายแรงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยจะจ่ายเงินก้อนให้ผู้เอาประกันเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงตามที่ระบุในกรมธรรม์ เช่น มะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคหัวใจ เงินก้อนนี้สามารถนำไปใช้รองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคที่มักมีค่าใช้จ่ายสูง หรือใช้เป็นเงินสำรองสำหรับการดำรงชีวิตในระหว่างการรักษา ประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ และต้องการความยืดหยุ่นในการใช้เงินก้อนที่ได้รับ
 

5. ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองผู้ป่วยนอก (OPD)

ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองผู้ป่วยนอกเน้นการให้ความคุ้มครองสำหรับการรักษาพยาบาลที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เช่น การตรวจรักษาทั่วไป การรับยา หรือการทำกายภาพบำบัด โดยทั่วไปแล้วจะมีการกำหนดจำนวนครั้งหรือวงเงินความคุ้มครองต่อปี ประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องพบแพทย์บ่อยครั้งหรือมีโรคประจำตัวที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพประจำวัน แม้ว่าอาจมีข้อจำกัดในเรื่องวงเงินคุ้มครอง แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเสริมความคุ้มครองให้กับประกันสุขภาพหลัก
 


ปัจจัยสำคัญในการเลือกประกันสุขภาพ

การเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการเงินและสุขภาพระยะยาว โดยมีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาดังนี้

1. อายุและสุขภาพปัจจุบัน

อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อเบี้ยประกันและความคุ้มครองที่ได้รับ โดยทั่วไป ยิ่งอายุมากขึ้น เบี้ยประกันก็จะยิ่งสูงขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นตามวัย การทำประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อยจึงมีข้อดีในแง่ของเบี้ยประกันที่ถูกกว่าและโอกาสในการได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า

2. ประวัติสุขภาพของครอบครัว

ประวัติสุขภาพของครอบครัวเป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม โรคบางชนิดมีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรม เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือบางชนิดของมะเร็ง หากในครอบครัวมีประวัติของโรคเหล่านี้ การเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะด้านหรือมีวงเงินคุ้มครองสูงสำหรับโรคเหล่านั้นอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด

3. ไลฟ์สไตล์และความเสี่ยง

ไลฟ์สไตล์และอาชีพของแต่ละบุคคลมีผลโดยตรงต่อความเสี่ยงด้านสุขภาพ ผู้ที่ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานก่อสร้าง หรือผู้ที่มีกิจกรรมยามว่างที่เสี่ยงอันตราย เช่น การเล่นกีฬาผาดโผน อาจต้องพิจารณาแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่สูงขึ้น

4. งบประมาณและความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน

การพิจารณางบประมาณและความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ ประกันสุขภาพที่ดีควรให้ความคุ้มครองที่เพียงพอโดยไม่สร้างภาระทางการเงินที่มากเกินไป การประเมินรายได้ ค่าใช้จ่าย และเป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ จะช่วยในการกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับเบี้ยประกัน

5. ความต้องการด้านการรักษาพยาบาล

ความต้องการด้านการรักษาพยาบาลของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน บางคนอาจต้องการความคุ้มครองที่เน้นการรักษาผู้ป่วยนอก ในขณะที่บางคนอาจต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมการรักษาโรคเรื้อรังหรือการผ่าตัดใหญ่ การประเมินความต้องการส่วนตัวอย่างละเอียดจะช่วยในการเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองตรงจุด
 


เข้าใจเงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนทำประกันสุขภาพ

การทำประกันสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ควรทำความเข้าใจเงื่อนไขและข้อยกเว้นต่างๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันความผิดหวังในภายหลัง มาดูกัน 5 ประเด็นสำคัญที่ทุกคนต้องรู้

1. ระยะเวลารอคอย 

ระยะเวลารอคอย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ทำประกันต้องรอหลังจากทำประกันก่อนจะสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ ระยะเวลานี้แตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทประกันและประเภทของการรักษา โดยทั่วไปอาจอยู่ที่ 30-90 วันสำหรับโรคทั่วไป 90-120 วันสำหรับโรคร้ายแรง เป็นต้น

2. โรคที่เป็นมาก่อน 

การพิจารณาโรคที่เป็นมาก่อน บริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่คุ้มครองหรือมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับโรคที่ผู้เอาประกันเป็นอยู่ก่อนทำประกัน เช่น อาจไม่คุ้มครองเลย คุ้มครองหลังจากทำประกันไปแล้ว 1-2 ปี หรือคุ้มครองแต่จำกัดวงเงิน

3. การจำกัดวงเงินคุ้มครอง

การจำกัดวงเงินคุ้มครอง แผนประกันสุขภาพมักมีการกำหนดวงเงินสูงสุดในแต่ละหมวด เช่น วงเงินผลประโยชน์ต่อปี ค่าห้องต่อวัน ค่าผ่าตัดต่อครั้ง และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก หากค่าใช้จ่ายจริงเกินวงเงินที่กำหนด ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบส่วนต่างเอง

4. เงื่อนไขการต่ออายุและการปรับเบี้ยประกัน

เงื่อนไขการต่ออายุและการปรับเบี้ยประกัน บริษัทประกันอาจปรับเบี้ยประกันเมื่อผู้เอาประกันมีอายุมากขึ้น และอาจมีการกำหนดอายุสูงสุดในการทำประกันใหม่ นอกจากนี้ การต่ออายุสัญญาอาจขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท ซึ่งอาจพิจารณาจากประวัติการเคลมของผู้เอาประกัน

5. ข้อยกเว้นในกรมธรรม์

ข้อยกเว้นในกรมธรรม์เป็นสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ประกันไม่คุ้มครอง ผู้เอาประกันควรทำความเข้าใจอย่างละเอียด โดยทั่วไปมักรวมถึง

  • การบาดเจ็บจากการกระทำของตนเอง เช่น พยายามฆ่าตัวตาย หรือทะเลาะวิวาท

  • อาการที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด

  • การรักษาที่ไม่จำเป็นทางการแพทย์ เช่น ศัลยกรรมความงาม

  • โรคบางชนิดในช่วงปีแรกของการทำประกัน

  • การรักษาที่อยู่ในขั้นทดลองหรือยังไม่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์

  • การบาดเจ็บจากกีฬาหรือกิจกรรมเสี่ยงภัยสูง

  • ความเสียหายจากสงคราม การก่อการร้าย หรือภัยธรรมชาติร้ายแรง

ผู้เอาประกันควรศึกษาข้อยกเว้นให้เข้าใจ และปรึกษาตัวแทนประกันเพื่อหาความคุ้มครองที่เหมาะสม หากต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงเฉพาะด้าน
 


เลือกประกันสุขภาพที่ไหนดี

ประกันสุขภาพที่ไหนดี? ชับบ์ ไลฟ์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยแผนประกันสุขภาพที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว เริ่มวางแผนสุขภาพกับ ชับบ์ ไลฟ์ วันนี้ เพื่อความอุ่นใจและมั่นคงในอนาคต ด้วยความคุ้มครองครอบคลุมและบริการคุณภาพ ชับบ์ ไลฟ์ พร้อมเป็นพันธมิตรด้านสุขภาพที่ไว้วางใจได้สำหรับทุกคนในครอบครัว

​​หมายเหตุ : ​​ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง ทั้งนี้ การรับประกันภัยเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของบริษัทฯ รายละเอียดและเงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย​

ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต นำเสนอทางเลือกประกันสุขภาพที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

  1. สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด(รพ.) เฮลท์ พรีเมียม เอ็กซ์ตร้า แบบมีความรับผิดส่วนแรก (HPED): ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายตามจริง ทางเลือกใหม่ที่ให้ความอุ่นใจในราคาเบา ๆ

  2. สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด(รพ.) เฮลท์ ดีไลท์ พลัส แบบมีค่าใช้จ่ายร่วม: ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มครองและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วยเบี้ยประกันภัยที่ถูกลง

  3. สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด(รพ.) เฮลท์ ดีไลท์ พลัส: ดูแลอย่างครอบคลุมทุกช่วงวัย มอบผลประโยชน์และแผนความคุ้มครองที่หลากหลาย

  4. แบบประกันสำเร็จรูป 20SLPA Package: คุ้มครองทั้งชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหตุ สร้างสวัสดิการส่วนตัวแบบครบวงจร

นอกจากแผนประกันที่ได้กล่าวถึงนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:ประกันสุขภาพ 

การเลือกประกันสุขภาพเปรียบเสมือนการลงทุนในอนาคตที่คุ้มค่า ช่วยปกป้องตัวเองและครอบครัวจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่ไม่คาดคิด พร้อมเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดได้อย่างทันท่วงที การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณจึงเป็นสิ่งสำคัญ การศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบแผนประกันต่าง ๆ จะช่วยให้ทุกคนค้นพบแผนที่เหมาะสมกับความต้องการ เริ่มต้นวางแผนประกันสุขภาพตั้งแต่วันนี้เพื่อความมั่นคงในอนาคต
 

บทความ

เลือกประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะสมกับตัวเอง

ทำไมถึงต้องทำประกันชีวิต เพราะหน้าที่หลักของประกันคือ “การโอนถ่ายความเสี่ยง” ของผู้เอาประกันภัยให้กับผู้รับประกัน เนื่องจากชีวิตเรามีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการเสียชีวิต

FAQ: เหตุใดต้องตรวจสุขภาพก่อนสมัครทำประกัน

การตรวจสุขภาพก่อนสมัครประกันนั้นก็เพื่อให้การพิจารณารับประกันภัยนั้นพิจารณาตามข้อมูลสุขภาพที่เป็นไปตามความจริงมากที่สุด หลายคนมีความคิดและสนใจในการทำประกันชีวิต

ประกันชีวิตกับการลดหย่อนภาษี: เคล็ดลับดีๆ เพื่อประหยัดภาษีและคุ้มครองอนาคต

ประกันชีวิตไม่ได้เพียงช่วยปกป้องอนาคตของคุณและคนที่คุณรักเท่านั้น แต่ยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย โดยในปัจจุบันกรมสรรพากรยินยอม

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา 

ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ