คุณแม่วัย 40+ กับความเสี่ยงที่จะขาดวิตามิน D แบบไม่รู้ตัว เรียนรู้วิธีดูแลกระดูกและอารมณ์ให้แข็งแรงทุกวัน

การเป็นแม่คนคือช่วงเวลาที่แสนมหัศจรรย์ แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความท้าทายมากมายที่ซ่อนอยู่ ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะเมื่อผู้หญิงก้าวเข้าสู่วัย 40 ปีขึ้นไป ที่นอกจากจะต้องรับมือกับความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงดูแล้ว ยังต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและอารมณ์ รวมถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจมองข้ามได้ง่าย เช่น การขาดวิตามิน D ที่ส่งผลต่อกระดูกพรุน หรือการเผชิญกับภาวะซึมเศร้าในวัยกลางคน ล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ผู้หญิงทุกคนควรตระหนัก แล้วจะดีแค่ไหนหากเราสามารถเตรียมพร้อมและรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ได้ทั้งด้านสุขภาพและการเงิน เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุข
 

การก้าวเข้าสู่วัย 40 ปีขึ้นไป คือช่วงที่ร่างกายของผู้หญิงเริ่มเปลี่ยนแปลงทั้งฮอร์โมน กระดูก และอารมณ์ หนึ่งในสารอาหารที่มักถูกมองข้ามแต่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งคือ “วิตามิน D” ไม่ได้สำคัญแค่เรื่องของอาหารเสริม แต่คือการลงทุนระยะยาวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงทางสุขภาพในอนาคต

ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป เริ่มมีความเสี่ยงเรื่องกระดูกพรุนมากขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง วิตามิน D จึงมีบทบาทสำคัญ

• มีส่วนช่วยในกระบวนการทำงานของสมองและสมดุลของสารสื่อประสาท ดังนั้นการขาดวิตามิน D อาจทำให้อารมณ์แปรปรวน เครียดง่าย หรือรู้สึกหมดแรงโดยไม่มีสาเหตุ เป็นต้น ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่านี่คือหนึ่งในอาการขาดวิตามิน D ที่ซ่อนอยู่

• วิตามิน D ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต้านทานการติดเชื้อและลดการอักเสบในระดับเซลล์ จึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรง อย่างเบาหวาน ความดัน หรือลมชักในผู้ใหญ่ ซึ่งหากพิจารณาในภาพรวม การดูแลเรื่องโภชนาการและเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง ก็ถือเป็นการเสริมเกราะสองชั้นที่รอบคอบและชาญฉลาด

• หลายปัจจัยที่ปัจจุบันทำให้ผู้หญิงวัยทำงานจำนวนมากเสี่ยงขาดวิตามิน D โดยไม่รู้ตัว เช่น การทำงานในออฟฟิศที่แทบไม่ได้โดนแดด ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ และการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่หลากหลาย แม้จะเป็นคนดูแลสุขภาพดี แต่ก็อาจขาดวิตามิน D โดยไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดดเลยแม้แต่น้อย

จากการสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 50% มีภาวะขาดวิตามิน D โดยมีค่าเฉลี่ย วิตามิน D อยู่ที่ 26.0 ng/ml จากปกติควรอยู่ที่ 30.00 ng/ml แม้ว่าประเทศเราจะมีแดดทั้งปี สำหรับใครที่ยังไม่เคยตรวจระดับวิตามิน D มาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป ที่ต้องการวางแผนสุขภาพวัยทองอย่างมีเป้าหมายในระยะยาว ตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอและเสริมวิตามิน D อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้
 

ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไปที่ชีวิตเริ่มลงตัว แต่ร่างกายกลับเริ่มส่งสัญญาณแปลก ๆ ที่หลายคนมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง ปวดเมื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออารมณ์แปรปรวนโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

• อ่อนล้า ปวดกระดูก อารมณ์แปรปรวน โดยเฉพาะในผู้หญิงวัย 40 ขึ้นไปที่ขาดวิตามิน D อาการต่าง ๆ จะมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพกระดูก และอารมณ์ การที่ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลงอาจทำให้เกิดอาการปวดกระดูกเรื้อรัง หรือแม้แต่ภาวะซึมเศร้าในวัยกลางคนได้โดยไม่รู้ตัว

• ผมร่วง ภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้หญิงวัย 40 มีแนวโน้มจะขาดมากกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ เนื่องจากฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยน และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง หากไม่ได้รับการดูแลให้ดี เช่น การปรับอาหาร ออกแดดในเวลาที่เหมาะสม หรือแม้แต่การตรวจสุขภาพกระดูกและเลือดอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น ก็อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ง่าย

หลายคนใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้เลยว่าร่างกายกำลังพยายามส่งสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าอยู่ หากปล่อยให้อาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้พัฒนาไปโดยไม่มีการวางแผนหรือการป้องกันที่เหมาะสม อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในอนาคตได้ การเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงไว้ตั้งแต่ยังแข็งแรง จึงเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับทั้งสุขภาพและอนาคตทางการเงินของคุณ
 

1. รับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าเพื่อกระตุ้นการสร้างวิตามิน D

การออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเวลา 06.00-08.00 น. วันละ 15–20 นาที เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง วิตามิน D ขึ้นเองตามธรรมชาติ วิธีนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง แต่ยังช่วยให้คุณได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นอีกด้วย
 

หากไม่สะดวกออกแดดเป็นประจำ การเลือกทานอาหารเสริมวิตามิน D หรือรับประทานอาหารที่มีวิตามิน D สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่แดง หรือนม เป็นต้น ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์
 

การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เช่น การยกเวทเบา ๆ การเล่นโยคะ หรือแม้แต่การเดินเร็ว เป็นต้น จะช่วยชะลอการสูญเสีย มวลกระดูก ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของผู้หญิงวัยทอง ที่ฮอร์โมนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัย การขยับร่างกายอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงทำให้โครงสร้างกระดูกแข็งแรงขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและสร้างสมดุลทางอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
 

การตรวจเช็กสุขภาพกระดูกและระดับ วิตามิน D อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง คือหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน หรือผู้ที่มีอาการผิดปกติเรื้อรัง การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และช่วยให้คุณวางแผนดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม

เพราะสุขภาพที่ดีไม่ใช่แค่ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการที่สุขภาพแข็งแรงมั่นคงในระยะยาวด้วย การดูแลตัวเองในวันนี้จึงควรมาพร้อมกับการวางแผนทางการเงินที่มั่นคง เช่น การเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมการรักษา เพื่อเสริมความมั่นใจในยามเจ็บป่วย ช่วยเพิ่มความอุ่นใจและมั่นคงให้กับอนาคตได้มากขึ้น

ประกันโรคร้ายแรง คือเกราะป้องกันสำคัญทางการเงินและสุขภาพที่ควรมีไว้ เพราะค่ารักษาโรคเรื้อรังหรือโรคร้ายแรงอาจกลายเป็นภาระหนักโดยไม่ทันตั้งตัว แผนความคุ้มครอง ประกันโรคร้ายแรงตลอดชีพ CI Extra Plus ที่ออกแบบมาเพื่อเข้าใจความเสี่ยงของผู้หญิงในทุกช่วงวัย ทำให้คุณวางแผนการเงินในระยะยาวได้อย่างมั่นคง 

 
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง ทั้งนี้ การรับประกันภัยเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของบริษัทฯ รายละเอียดและเงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย


แหล่งข้อมูลอ้างอิง 
-  นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ (หมอบาย)., หนังสือ Healthitude สุข(อุดม)คติ