ข้ามไปหน้าหลัก
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

อันตรายของความดันโลหิตสูง ค้นหาสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

10/2024
คุณหมอวัดความดันคนไข้


ความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยที่คุกคามชีวิตคนจำนวนมาก โดยไม่มีอาการเตือนที่ชัดเจนในระยะเริ่มต้น ทำให้หลายคนละเลยที่จะดูแลสุขภาพ จนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และโรคไตวาย บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง สาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันและรักษา เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

ความดันโลหิต คืออะไร

ความดันโลหิต คือ แรงกดดันของเลือดที่ไหลผ่านหลอดเลือดแดงในร่างกาย เปรียบเสมือนระบบท่อส่งน้ำที่มีอยู่ทั่วร่างกาย โดยความดันโลหิตเกิดจากการทำงานของหัวใจที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนปั๊มน้ำ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

ซึ่งแพทย์จะวัดค่าความดันโลหิตเป็นสองค่า คือ

  • ค่าสูง : เป็นค่าความดันหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจบีบตัว (Systolic Blood Pressure)

  • ค่าต่ำ : เป็นค่าความดันหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจคลายตัว (Diastolic Blood Pressure)
     

ความดันโลหิตสูง คืออะไร

ความดันโลหิตสูง (Hypertension) ตามความหมายของ World Health Organization (WHO) คือ การมีความดันในหลอดเลือดสูงเกินไป (140/90 มม.ปรอทหรือสูงกว่า) ซึ่งเป็นสภาวะที่พบได้บ่อย แต่หากไม่รักษาอาจเกิดปัญหาร้ายแรงได้
 

อาการของโรคความดันโลหิตสูง

สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง มีอาการเบื้องต้น เช่น ปวดหัว หน้ามืดเวียนศีรษะ มึนงง เหนื่อยหอบง่าย มือเท้าชาและใจสั่น ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยทันที
 

โรคความดันโลหิตสูงแต่ละประเภทและสาเหตุ

โรคความดันโลหิตสูง หรือ ภาวะความดันโลหิตสูง มักถูกเรียกว่า "ฆาตกรเงียบ" เพราะมักไม่มีอาการเตือน แต่สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ ดังนี้
 

1. ความดันโลหิตสูงที่ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน (Primary Hypertension)

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง มักเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน เช่น

  • อายุ: ความดันโลหิตมักเพิ่มสูงขึ้นตามอายุ 
  • พันธุกรรม: หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง 
  • น้ำหนักตัว: ภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน 
  • ขาดการออกกำลังกาย: การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ 
  • การรับประทานอาหาร: การรับประทานอาหารที่มีโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอลสูง 
  • ดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป 
  • สูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ 
  • ความเครียด: ความเครียดเรื้อรัง
     

2. ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากสาเหตุที่ชัดเจน (Secondary Hypertension)

กลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่เกิดจากโรคหรือสภาวะอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระบบการไหลเวียนโลหิต สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่

  • โรคไต: โรคไตเรื้อรัง โรคนิ่วไต หรือโรคทางเดินปัสสาวะอุดกั้น
  • เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต: ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนที่ควบคุมความดันโลหิต
  • โรคต่อมไทรอยด์: โรคไทรอยด์เป็นพิษ 
  • ความผิดปกติของหลอดเลือด: หลอดเลือดแดงตีบ หรือหลอดเลือดโป่งพอง
  • ยาบางชนิด: ยาคุมกำเนิด ยาสเตียรอยด์ ยาลดความอ้วน (กลุ่มแอมเฟตามีน) 
  • การใช้สารเสพติด: โคเคน ยาบ้า

    การวินิจฉัย: 
    แพทย์จะวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงโดยวัดความดันโลหิต หากพบความดันโลหิตสูง แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

     

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูงอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่ออวัยวะสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

1. โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง: แรงดันของเลือดที่ไหลเวียนผ่านหลอดเลือดแดงใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอ โป่งพอง

2. หัวใจล้มเหลว: กล้ามเนื้อหัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย หายใจลำบาก

3. โรคเมตาบอลิก: ส่งผลต่อระบบเผาผลาญพลังงาน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง

4. หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง: ความดันโลหิตสูงเรื้อรังทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว

5. โรคสมองเสื่อม: สมองเสื่อมสภาพลง สูญเสียความทรงจำ และความสามารถในการคิด

6. ปัญหาเกี่ยวกับความจำหรือความเข้าใจ: ส่งผลต่อความจำ การคิด การตัดสินใจ

7. หลอดเลือดในไตแคบลง: ไตได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ฟอกของเสียไม่ได้ อาจนำไปสู่ภาวะไตวาย

8. หลอดเลือดในดวงตาหนาหรือแคบ: อาจสูญเสียการมองเห็น

อย่างไรก็ตาม การควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ร่วมกับการรักษาจากแพทย์สามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้


วิธีวัดความดันโลหิตที่บ้านด้วยตัวเอง

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องติดตามระดับความดันโลหิตอย่างต่อเนื่อง การวัดความดันโลหิตที่บ้าน จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัย ปรับเปลี่ยนยา และดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการวัด:

  1. เตรียมอุปกรณ์เครื่องวัดความดันโลหิตชนิดดิจิทัล กระดาษ ปากกา

  2. เตรียมตัวนั่งพักอย่างน้อย 5 นาที ขาไม่ไขว้กัน หลังพิงเก้าอี้ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

  3. วัดความดันโลหิตทำตามคู่มือการใช้งานของเครื่องวัดความดันโลหิตโดยทั่วไปควรวัด 2 ครั้ง
    ห่างกัน 1 นาที แล้วบันทึกค่าเฉลี่ย

  4. บันทึกผล จดวันที่เวลา ค่าความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ อาการผิดปกติ

ข้อควรระวัง:

  • ไม่ควรวัดความดันโลหิตหลังสูบบุหรี่ ดื่มชา กาแฟ หรือออกกำลังกาย

  • ควรวัดความดันโลหิตในสภาพอากาศที่เย็นสบาย เงียบสงบ

  • ควรใช้อุปกรณ์วัดความดันโลหิตที่ได้มาตรฐาน

  • ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการวัด


คำแนะนำเพิ่มเติม: ไม่จำเป็นต้องวัดความดันโลหิตทุกวัน แพทย์จะแนะนำระยะเวลาที่เหมาะสม ควรวัดความดันโลหิตเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน จดบันทึกค่าความดันโลหิตที่ได้และนำไปให้แพทย์พิจารณาเมื่อไปติดตามการรักษา
 
 

วิธีป้องกันการเป็นโรคความดันโลหิตสูง

การป้องกันโรคความดันโลหิตสูงนั้น ทำได้ง่ายๆ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้

1. ควบคุมน้ำหนัก:

  • หากมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ ควรลดน้ำหนักให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ 

2. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์:

  • เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน ลดการทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูง ไขมันทรานส์ อาหารแปรรูป อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสำเร็จรูป

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:

  • ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
    เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค

4. ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์:

  • ผู้ชายไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เกิน 2 แก้วต่อวัน ผู้หญิงไม่ควรเกิน 1 แก้วต่อวัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

5. เลิกสูบบุหรี่:

  • การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคความดันโลหิตสูง ควรเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด

6. จัดการความเครียด:

  • หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ฝึกสมาธิ โยคะ ฟังเพลง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

7. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ:

  • ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดความดันโลหิต ตรวจหาโรคอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง

8. ปรึกษาแพทย์:

  • หากมีญาติเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคไขมันในเลือดสูง

  • หากมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีพฤติกรรมการทานที่ไม่ดี

  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน
     
     


วิธีรักษาโรคความดันโลหิตสูง

การรักษาความดันโลหิตสูงนั้น จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น อายุและเพศของผู้ป่วย น้ำหนักตัว พฤติกรรมการใช้ชีวิต การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ โดยทั่วไปแล้ว มีสองวิธีหลัก ๆ ในการรักษา

1. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เป็นวิธีแรกที่แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยลองปฏิบัติ เนื่องจากทำได้ง่ายและไม่ต้องพึ่งยา แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในการปฏิบัติ

  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: ลดอาหารรสเค็ม เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การเดินวันละ 30 นาที สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

  • ควบคุมน้ำหนัก: หากน้ำหนักเกินเกณฑ์ การลดน้ำหนักจะช่วยลดความดันโลหิตได้

  • ลดบุหรี่และแอลกอฮอล์: ทั้งสองสิ่งนี้ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดและความดันโลหิต

  • จัดการความเครียด: หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ฟังเพลง ทำสมาธิ

2. รักษาด้วยยา หากการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไม่เพียงพอ หรือความดันโลหิตสูงมาก แพทย์อาจพิจารณาให้ยาลดความดันโลหิต

  • ยาลดความดันโลหิตมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน

  • แพทย์จะเลือกยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ โรคประจำตัว

  • สิ่งสำคัญคือ ผู้ป่วยต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่หยุดยาเองหรือปรับขนาดยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์


การดูแลรักษาความดันโลหิตสูงเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกับการรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นวิธีที่ดีในการเฝ้าระวังและควบคุมความดันโลหิตสูง ชับบ์ไลฟ์ ประกันภัย ตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี และพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวสำหรับทุกคน

เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่าปล่อยให้ค่ารักษาพยาบาล มาทำให้แผนการใช้ชีวิตไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดคิดอาจสร้างปัญหาให้กับเงินออมและแผนการใช้ชีวิตได้ ให้ประกันสุขภาพจาก ชับบ์ ไลฟ์ ช่วยดูแลด้วยแบบประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด ประกันชดเชยรายได้ และประกันโรคร้ายแรงมอบความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุม เพื่อปกป้องผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหากเจ็บป่วยขึ้นมา


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง

1. ความดันโลหิตสูงสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?

ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ยา

2. การออกกำลังกายแบบใดที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง?

การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การเดินเร็ว การวิ่งเบา ๆ การว่ายน้ำ และการปั่นจักรยาน

3. ควรไปพบแพทย์บ่อยแค่ไหนถ้าฉันมีความดันโลหิตสูง?

ควรพบแพทย์ตามนัดทุก 3-6 เดือน หรือบ่อยขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์

4. อาหารประเภทใดที่ควรหลีกเลี่ยงถ้าฉันมีความดันโลหิตสูง?

ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือและไขมันสูง เช่น อาหารจานด่วน อาหารกระป๋อง และอาหารทอด

5. สามารถใช้สมุนไพรหรืออาหารเสริมเพื่อช่วยลดความดันโลหิตได้หรือไม่?

สามารถใช้ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากบางสมุนไพรและอาหารเสริมอาจมีผลข้างเคียงหรือทำปฏิกิริยากับยาที่ผู้เป็นความดันโลหิตกำลังใช้


ที่มา

บทความ

อาการความดันต่ำ ภัยเงียบ... ที่คุณอาจไม่รู้ตัว

ความดันต่ำ ภาวะที่ความดันของกระแสเลือดในหลอดเลือดแดงต่ำกว่า​ปกติ มักจะพบในผู้ที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ

7 สุดยอดอาหารบำรุงหัวใจขาดเลือด

เพราะหัวใจไม่เคยได้หยุดพักเหมือนอวัยวะอื่นๆ อยากให้หัวใจแข็งแรงไม่เสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือด ต้องหมั่นดูแลแต่เนิ่นๆ ด้วยสุดยอดอาหารบำรุงหัวใจขาดเลือด!

รู้เท่าทัน โซเดียม เลือกทานอาหาร เพื่อสุขภาพหัวใจและไตที่แข็งแรง

ทำความเข้าใจกับอาหารที่มีโซเดียมกันใหม่ เพราะโซเดียมไม่ได้พบในเกลืออย่างเดียว

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา 

ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ