ข้ามไปหน้าหลัก
ประกันอุบัติเหตุ

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจำเป็นแค่ไหน? เคลมอะไรได้บ้าง?

07/2025
ประกันอุบัติเหตุเคลมอะไรได้บ้าง


 

Highlight

  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลช่วยคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุทั่วไป อุบัติเหตุจากการทำงาน และอุบัติเหตุอื่น ๆ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ระหว่างพักฟื้น
  • เมื่อเกิดเหตุควรเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด และเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จค่ารักษา เพื่อการเคลมที่รวดเร็ว
  • อุบัติเหตุทางรถยนต์และอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ สามารถเคลมประกันอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร


เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ โดยที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน หรือเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุจากการทำงาน หรือแม้กระทั่งกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หรือการทำงานที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี อุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้นได้เมื่อเราพลั้งเผลอ และแม้ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างมีสติอยู่เสมอ ก็ยังมีโอกาสเผชิญความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากบุคคลอื่น การทำประกันอุบัติเหตุไว้ จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น จากการมีหลักประกันทางการเงินที่จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเงินชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ 

แล้วอุบัติเหตุทั่วไปคืออะไร

อุบัติเหตุทั่วไป คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน จากปัจจัยภายนอก ที่ทำให้เกิดผลที่เราไม่ได้คาดคิด หรือมุ่งหวัง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือความเสียหายทางร่างกาย ตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อย เช่น การล้ม ไปจนถึงบาดเจ็บหนัก เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต นอกจากความเสียหายต่อร่างกาย เช่น ความเจ็บป่วยจนนำไปสู่ค่ารักษาพยาบาล และผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน ซึ่งอาจทำให้ขาดรายได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ในหลาย ๆ กรณี อุบัติเหตุยังก่อให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินได้อีกด้วย

อุบัติเหตุจากการทำงานคืออะไร

อุบัติเหตุจากการทำงาน คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ อันเป็นผลมาจากการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งภายในสถานที่ทำงาน ในระหว่างการปฏิบัติงาน หรือมีความเกี่ยวข้องกับการทำงาน ทำให้บุคคลากรได้รับผลกระทบทั้งด้านทรัพย์สินและสุขภาพ อาทิ การบาดเจ็บ ป่วยเป็นโรค ทุพพลภาพ หรืออาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินขององค์กร และส่งผลต่อบุคคลแวดล้อมทั้งครอบครัว ญาติ ผู้ร่วมงาน ได้อีกด้วย

ถ้ามีประกันอุบัติเหตุ สามารถเคลมอะไรได้บ้าง? 

ผู้เอาประกันภัยสามารถยื่นเคลมประกันอุบัติเหตุ ได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. อุบัติเหตุทั่วไป อาทิ

  • อุบัติเหตุทางรถยนต์ เช่น รถยนต์เฉี่ยวชนคน รถยนต์ชนกันแล้วส่งผลกระทบต่อบุคคล จนทำให้มีรอยขีดข่วน, รอยฟกช้ำ, บาดเจ็บภายใน, กระดูกหัก, ไหล่เจ็บ เป็นต้น
  • อุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ เช่น รถล้ม หรือตกจากการนั่งซ้อนท้าย ส่งผลให้เกิดการฟกช้ำ บาดเจ็บ เป็นแผล จนถึงแขนขาหัก หรืออันตรายถึงชีวิต
  •  บาดเจ็บจากของมีคม เช่น มีดบาด เดินเหยียบเศษแก้ว เดินชนประตูกระจกแตก
  • ถูกสัตว์กัด ทั้งสัตว์เลี้ยงของเราเอง หรือของคนอื่น และสัตว์อื่น ๆ ที่อาจมาทำอัตรายแก่เรา
  • เดินเตะตู้ โต๊ะหรือสิ่งกีดขวาง จนนิ้วเท้าบาดเจ็บ เป็นแผล ฟกช้ำ เลือดออก เล็บหลุด
  • แผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  • ลื่นล้ม พบได้บ่อยในเด็กและผู้สูงวัย มีตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อย ๆ ไปจนถึงรุนแรง
  • ชาร์จแบตเตอรี่แล้วเกิดระเบิด นอนเล่นโทรศัพท์มือถือ แล้วตกใส่หน้า จมูกหัก ฟันแตก
  • ก้างปลาติดคอ
  • ที่หนีบผมร้อน ๆ พลาดโดนใบหู

2. อุบัติเหตุจากการทำงาน ที่เกิดในสถานที่ทำงาน หรือระหว่างการปฏิบัติงาน อาทิ

  • การกระแทก เช่น วัตถุหล่นใส่ เดินชนสิ่งกีดขวาง หรืออุบัติเหตุจากเครื่องจักร เป็นต้น
  • หนีบดึง สัมผัสอุปกรณ์เครื่องมือที่หมุนแล้วอวัยวะบางส่วนเข้าไปติด
  • บาดเจ็บจากของมีคม เช่น กรรไกร มีดคัตเตอร์ และเครื่องตัดกระดาษ เป็นต้น
  • ตกจากที่สูง จากงานก่อสร้างที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่นอกตัวอาคารสูง หรือตกบันได
  • ลื่นหรือสะดุดล้ม อาจไม่รุนแรง แต่สำหรับผู้ที่กระดูกไม่แข็งแรง หรือวัยกลางคนก็อาจส่งผลรุนแรงได้
  • ทำงานซ้ำท่าเดิม จนกล้ามเนื้อใช้งานหนักและเกิดการฉีกขาด
  • สาเหตุจากยานพาหนะ เครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ และผู้ขับขี่มีปัญหาสุขภาพ
  • กระแสไฟฟ้าดูด จากอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า ที่ไม่ได้มาตรฐานในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน
  • สัมผัสความร้อน จากน้ำร้อน ก๊าซ ของเหลว ของแข็ง ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลาย 
     

การใช้สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ถือกรมธรรมประกันอุบัติเหตุ

หลายคนอาจสงสัยว่าหากประสบอุบัติเหตุ แล้วต้องการใช้สิทธิตามกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ เราต้องเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลภายในกี่ชั่วโมง

โดยหลังเกิดเหตุและได้รับบาดเจ็บอย่างชัดเชน ไม่ว่าจะเป็น บาดแผล ฟกช้ำดำเขียว กระดูกหัก หรืออื่น ๆ ผู้เอาประกันภัย ควรเข้ารับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมงหรือโดยเร็วที่สุดที่โรงพยาบาลในเครือหรือนอกเครือข่ายบริษัทประกันภัย และต้องขอใบรับรองแพทย์เพื่อให้แพทย์ยืนยันว่าเป็นการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน สิ่งสำคัญคือการโทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินทันที เช่น 1669 หรือ 191 เพื่อขอความช่วยเหลือและ รวมทั้งขอเอกสารอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมประกันต่อไปในภายหลัง

เอกสารสำหรับเคลมค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

หากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนอกเครือข่ายหรือกรณีที่ได้สำรองจ่ายไปก่อน ผู้เอาประกันภัยต้องรวบรวมเอกสารและหลักฐานค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ เพื่อยื่นเคลมกับบริษัทประกันภัย ดังนี้

  •  แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ซึ่งสามารถขอได้จากเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยในภายหลังได้
  • ใบรายงานแพทย์หรือใบรับรองแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลตรวจวินิจฉัย และวิธีการรักษา ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญมาก ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งเจ้าหน้าโรงพยาบาลที่รับเรื่อง ให้ทราบว่าต้องการเอกสารเพื่อยื่นเคลมกับบริษัทประกันภัย หากมีการเอกซเรย์ต้องนำผลเอกซเรย์, CT scan, MRI แนบไปด้วย
  • ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับที่แสดงรายการค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาล เมื่อจ่ายค่ารักษาเรียบร้อยแล้ว เก็บเอกสารไว้ให้ดี เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นในการเรียกร้องสินไหม
  •  สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัยที่ตรงกับข้อมูลตามกรมธรรม์ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้เอาประกันภัยสำหรับรับเงินเคลมประกัน
     

ขั้นตอนการเคลมประกันอุบัติเหตุ

ขั้นตอนการแจ้งเคลมและยื่นเอกสารขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัประกันภัยกำหนด     

กรณีการใช้สิทธิค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก

  1. ผู้เอาประกันภัยหรือญาติ แสดงบัตรประกันและบัตรประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนั้น ๆ
  2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและแจ้งสิทธิตามเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ผู้เอาประกันภัยทราบเบื้องต้น
  3. ผู้เอาประกันภัย เข้ารับการรักษากับโรงพยาบาล เมื่อเรียบร้อยแล้วจะได้รับเอกสารค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปเบิกค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันภัย
  4. เจ้าหน้าที่ให้ผู้ป่วยเซ็นชื่อในใบเคลมรวมถึงใบแสดงค่าใช้จ่าย เพื่อส่งไปที่บริษัทประกันภัย
  5. หากค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้ป่วยจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนเกินเอง
  6. หากโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาอยู่นอกเครือข่ายบริษัทประกัน ผู้ป่วยต้องรวบรวมนำใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์ รวมถึงเอกสารอื่น ๆ เพื่อยื่นเคลมกับบริษัทประกันโดยตรง  ตามที่บริษัทนั้น ๆ กำหนด

กรณีการใช้สิทธิค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน

  1.  ผู้เอาประกันภัยหรือญาติ แสดงบัตรประกันและบัตรประชาชน แก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล
  2. เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะนำเอกสารเคลมพร้อมสำเนาการใช้สิทธิมาให้ผู้ป่วยเซ็นยืนยันการใช้สิทธิตามเงื่อนไขในกรมธรรม์
  3. หลังเข้ารับการรักษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ เจ้าหน้าที่จะสรุปค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและนำส่งให้บริษัทประกันโดยตรง ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ผู้ป่วยต้องชำระค่ารักษาส่วนเกินเอง
  4. หากความคุ้มครองตามกรมธรรม์ครอบคลุมการชดเชยรายได้ ผู้เอาประกันภัยสามารถเคลมเงินชดเชยรายได้ รายวัน ระหว่างเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุเพิ่มเติมได้ ตามเงื่อนไข

คำแนะนำในการเลือกประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

  • ประเมินจากตัวเราเอง อายุ สุขภาพ อาชีพ ลักษณะงาน และไลฟ์สไตล์ ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในชีวิตประจำวัน เพื่อประเมินแผนความคุ้มครองที่เหมาะสม
  • ศึกษาความคุ้มครอง เงื่อนไข ข้อยกเว้นต่าง ๆ ให้รอบคอบ เช่น การเล่นกีฬา และการเดินทางไปต่างประเทศ ของแผนประกันจากหลายบริษัทประกัน เพื่อดูว่าแผนไหนครอบคลุม ตอบโจทย์ที่สุด
  • เปรียบเทียบทุนประกันภัย หากการใช้ชีวิตของเรามีความเสี่ยงสูง อาจให้ความสำคัญกับทุนประกันภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
  • การจ่ายเงินทดแทนต่าง ๆ เช่น หากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ต้องสำรองจ่ายก่อนหรือไม่ รวมถึงดูวงเงินผลประโยชน์ที่สอดคล้องกับความเสี่ยงของเรา เช่น ค่ารักษาพยาบาลเพียงพอตามความต้องการหรือไม่ หรือมีค่าชดเชยรายได้ หากต้องพักรักษาตัวนาน 
  • ดูเบี้ยประกันภัย ที่สอดคล้องการเงินของเรา ซึ่งสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้โดยไม่เป็นภาระตลอดระยะเวลาการเอาประกันภัย เพื่อให้เราได้รับความคุ้มครองที่ต่อเนื่องตลอดการทำประกัน
  • เลือกแผนประกันที่มีค่าเบี้ยประกันสมดุลกับความคุ้มครองที่ต้องการ เพราะบริษัทประกันภัยจะคำนวณค่าเบี้ยฯ จากความเสี่ยง
  • เลือกจากโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ครอบคลุม เช่น สามารถใช้บริการได้ทั่วประเทศหรือไม่ มีโรงพยาบาลคู่สัญญาใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้ที่พักหรือไม่ เพื่อให้เราเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจริง
  • เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ มีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแรงมั่นคง สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ตาม

แผนประกันอุบัติเหตุมีให้เลือกมากมาย สิ่งสำคัญคือการเลือกแผนที่คุ้มค่ามีความเหมาะสมทั้งผลประโยชน์ที่ครอบคลุมและจ่ายได้แบบสบายกระเป๋า
 


ประกันอุบัติเหตุ PA Beyond คุ้มครองให้ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เพิ่มทุนประกัน 1 เท่า สำหรับอุบัติเหตุสาธารณะ พร้อมรับเงินชดเชยรายได้ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล


ประกันอุบัติเหตุ PA Beyond จากชับบ์สามัคคีประกันภัย

อุ่นใจได้ทุกวันกับประกันอุบัติเหตุ PA Beyond คุ้มครองทันใจ ไม่ต้องสำรองจ่าย พร้อมรับเงินชดเชยรายได้ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล คุ้มครองครบทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ทำไมต้องเลือกประกันอุบัติเหตุ PA Beyond จากชับบ์สามัคคี

  • คุ้มครองสูงสุดถึง 2.5 ล้านบาท กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุทั่วไป
  • ครอบคลุมค่าชดเชยความสูญเสียหรือความเสียหายของทรัพย์สินและเงินจากการถูกชิงทรัพย์สูงสุด 50,000 บาท
  • เพิ่มทุนประกันเป็น 1 เท่า สำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุสาธารณะ
  • ขยายความคุ้มครองครอบคลุมการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์

สิทธิประโยชน์และการเคลมที่สะดวกจากประกันอุบัติเหตุ PA Beyond จากชับบ์สามัคคี

  • รับความคุ้มครองทันใจ สะดวกโดยไม่ต้องสำรองจ่าย กับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 250,000 บาท เมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือชับบ์สามัคคี
  • รับเงินชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ สูงสุด 3,000 บาทต่อวัน นานสูงสุด 90 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวในแต่ละครั้ง
  • คุ้มครองค่าปลงศพหรือค่าใช้จ่ายในการจัดการปลงศพ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุ

1. ประกันอุบัติเหตุจากการทำงานให้ค่าชดเชยรายได้หรือไม่?
หากผู้เอาประกันได้รับบาดเจ็บอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ จนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่งผลให้ต้องขาดงานชั่วคราว ตามเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์ แผนประกันอุบัติเหตุ PA Beyond จากชับบ์สามัคคี จะให้ค่าชดเชยรายได้สูงสุด 3,000 บาท/วัน ครอบคลุมนานสูงสุด 90 วันต่อครั้ง

2. กรณีประสบอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงาน สามารถใช้สิทธิประกันอุบัติเหตุร่วมกับสิทธิประกันสังคมได้หรือไม่?

สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยประกันอุบัติเหตุจากชับบ์สามัคคี จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาส่วนที่เกินจากสิทธิประกันสังคม เช่น ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม และค่าชดเชยรายได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์

3. เรียกร้องค่าสินไหมจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงาน ผ่านระบบออนไลน์ได้หรือไม่?

ลูกค้าชับบ์สามัคคี สามารถใช้บริการระบบออนไลน์ MyAccount ในการแจ้งเคลมออนไลน์ด้วยตัวเอง ได้ทุกที่ ตลอด 24 ชั่วโมง 

เข้าสู่ระบบ MyAccount – Chubb Samaggi

4. การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนสำหรับประกันอุบัติเหตุใช้เวลานานเท่าไหร่?

โดยปกติจะพิจารณาและสรุปผลภายใน 15 วัน หลังจากวันที่บริษัทได้รับเอกสารครบถ้วนจากผู้เอาประกันตามเงื่อนไขในกรมธรรม์

5. สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลคู่สัญญาของชับบ์สามัคคีได้อย่างไรบ้าง?

ตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลในเครือของชับบ์สามัคคี ได้จาก LINE OA @ChubbThailand หรือผ่านเว็บไซต์ ชับบ์สามัคคี www.chubb.com/th หรือคลิกที่นี่
รายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาชับบ์สามัคคีประกันภัย

 

 

 

 

หมายเหตุ

1. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
2. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
3. รับประกันภัยโดย บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) 2/4 อาคารชับบ์ ชั้นที่ 12 โครงการนอร์ธปาร์ค ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
 

สนใจทำประกันภัยอุบัติเหตุ PA Beyond กับชับบ์ 

เพียงกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านล่างให้ครบถ้วน เพื่อให้ ชับบ์ ติดต่อกลับ หรือ โทร. 1758 เพื่อรับคำแนะนำด้านประกันอุบัติเหตุคุ้มครองทันที ประกันอุบัติเหตุที่มีค่าชดเชยรายได้ เมื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะกับความต้องการ

กรุณาระบุชื่อ
กรุณาระบุนามสกุล
กรุณาระบุอีเมล
กรุณาระบุหมายเลขโทรศัพท์
ท่านมีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตหรือไม่?
กรุณาตอบคำถาม
This field is required

บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ใช้และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการพิจารณารับประกันภัย การบริหารจัดการกรมธรรม์ การจัดการสินไหมทดแทน และวัตถุประสงค์ด้านประกันภัยอื่น ๆ ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท โดยท่านสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทได้ ที่นี่