เตรียมความพร้อม ดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน

เมื่อถึงฤดูฝน หลายคนคงรู้สึกถึงบรรยากาศเย็นสบายและผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพมากขึ้น เพราะหน้าฝนมักมาพร้อมกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อร่างกาย เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคอุจจาระร่วง หรือแม้กระทั่งอาการภูมิแพ้จากความชื้นที่เพิ่มขึ้นในอากาศ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้สุขภาพของเราต้องเผชิญกับความท้าทาย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมและดูแลตัวเองในช่วงหน้าฝนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
 

ในฤดูกาลหน้าฝนนอกจากจะทําให้อากาศเย็นสบายแล้ว อีกมุมหนึ่งอาจมีแต่อาจแฝงมาด้วยเชื้อโรคแอบแฝงเข้ามาและอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพที่เราไม่ควรมองข้าม ขอแนะนำ 7 วิธีดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน ที่สามารถช่วยป้องกันโรคยอดฮิตในฤดูกาลนี้ พร้อมดูแลคนที่คุณรักให้ปลอดภัยจากภัยสุขภาพที่มาพร้อมสายฝน
 

ฝนตกหนักไม่เพียงแต่ทำให้การเดินทางลำบาก แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและการติดเชื้อได้อีกด้วย การเดินทางในช่วงที่ฝนตกหนักอาจทำให้ถนนลื่นและมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ซึ่งเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากไม่จำเป็นจริง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในช่วงที่ฝนตกหนัก หรือถ้าต้องออกไปจริง ๆ ควรตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าและเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ น้ำท่วมขังที่เกิดจากฝนตกหนักยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่ซึ่งอาจทำให้สัมผัสจากสิ่งสกปรกและเป็นสาเหตุนำไปสู่โรคต่างๆได้ เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง หรือแม้แต่โรคจากยุงที่มีความเสี่ยงสูงในช่วงนี้อย่าง โรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจากการติดเชื้อทางเดินหายใจที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้

หากจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่ม เสื้อกันฝน และรองเท้าที่สามารถกันน้ำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับน้ำฝนโดยตรงและลดโอกาสเกิดโรคจากความชื้น การรักษาสุขภาพและความปลอดภัยในช่วงฝนตกหนักเป็นสิ่งสำคัญ
 

การเสริมสร้างภูมิต้านทานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน เพราะร่างกายต้องเผชิญกับเชื้อโรคและอากาศที่มีความชื้นสูง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้ง่าย การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์สามารถช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้น และลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

อาหารที่ควรทานเพื่อเสริมภูมิต้านทานในช่วงหน้าฝน ได้แก่

1. ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง วิตามินซีเป็นสารสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว หรือพริกหวาน สีเขียวและแดง ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย และยังช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น
2. อาหารที่มีโปรตีนสูง โปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันใหม่ ๆ อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไร้มัน ปลา ถั่ว ไข่ เป็นต้น ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น
3. อาหารที่มีแร่ธาตุช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน พบได้ในอาหารประเภท ถั่ว เห็ด และอาหารทะเล เป็นต้น เต็มไปด้วยแร่ธาตุที่สําคัญต่อร่างกาย อาทิ สังกะสีและเซเลเนียมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน
4. อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 กรดไขมันชนิดนี้ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 อาทิ ปลาแซลมอน วอลนัท และเมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น
5. การดื่มน้ำเปล่าที่สะอาด การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายคงความชุ่มชื้น และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย
    

ในช่วงหน้าฝน ความชื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย ทั้งในอากาศและในสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ดังนั้น การรักษาความสะอาดของร่างกายและที่พักอาศัยจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่การแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

การรักษาความสะอาดร่างกาย หลังจากที่เราผ่านการสัมผัสฝนหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรอาบน้ำให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ติดมากับฝนมาสะสมในร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ การใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแบคทีเรียและการล้างมือบ่อยๆ ยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการสัมผัสสิ่งของหรือคนอื่นได้ รวมถึงรักษาความสะอาดของที่พักอาศัย ในช่วงหน้าฝน ความชื้นในอากาศจะทำให้บ้านหรือที่พักอาศัยมักมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อราและแบคทีเรีย การดูแลรักษาความสะอาดในบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรทำความสะอาดบริเวณต่าง ๆ ในบ้าน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว และพื้นผิวที่มักมีน้ำขัง หรือที่ที่มีการใช้น้ำบ่อย ๆ ให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ การเปิดหน้าต่างเพื่อให้บ้านมีอากาศถ่ายเทที่ดีขึ้นมีส่วนช่วยลดความชื้นในบ้านและป้องกันการเกิดเชื้อรา
 

ในช่วงหน้าฝน การเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นอาจทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการสัมผัสกับอากาศที่มีความชื้นและการรวมตัวของผู้คนจำนวนมากสามารถเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดา ที่มักแพร่กระจายทางละอองอากาศจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ นอกจากโรคหวัดธรรมดาแล้ว ยังมีโรคทางเดินหายใจอีกชนิดหนึ่งที่ควรระวังในช่วงนี้ นั่นคือ โรค Mycoplasma pneumoniae หรือ โรคปอดอักเสบจากการเดิน ที่สามารถติดต่อได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งอาการเบื้องต้นอาจรวมถึงไข้ ไอแห้ง ๆ เจ็บคอ และอ่อนเพลีย เป็นต้น

การอยู่ในสถานที่แออัดยังทำให้เราเสี่ยงต่อการสัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อโรค เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู หรือที่นั่งในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ ที่สามารถติดมากับมือได้ง่าย หากเราไม่ได้ทำความสะอาดมือหลังจากสัมผัส การหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นจึงเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ควรเลือกการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี และมีมาตรการป้องกันเชื้อโรคอย่างเหมาะสม
 

การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมในช่วงหน้าฝนเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดีและมีความยืดหยุ่นเพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากการอยู่ในสภาพอากาศชื้น และที่สำคัญควรพกเสื้อกันฝนหรือร่มติดตัว เพื่อป้องกันการเปียกฝนที่อาจทำให้ร่างกายเย็นเกินไป
 

ฝนตกเป็นสาเหตุให้ยุงและแมลงต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดี การใช้ยากันยุงหรือสารกันแมลงสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เราติดเชื้อจากยุงได้ เช่น โรคไข้เลือดออกหรือมาลาเรีย ควรใช้ยากันยุงในพื้นที่ที่มีน้ำขังหรือแม้กระทั่งในตอนกลางคืน ช่วงเวลาที่ยุงมักจะออกมามากที่สุด
 

การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการป้องกันที่สำคัญเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่เชื้อโรคต่าง ๆ แพร่ระบาดง่าย การตรวจสุขภาพประจำปีจะช่วยให้เราทราบถึงภาวะสุขภาพของตัวเองได้อย่างชัดเจน เช่น การตรวจเลือดเพื่อดูระดับน้ำตาลในเลือด, ค่าคอเลสเตอรอล, การทำงานของตับและไต เป็นต้น หรือการตรวจปอดเพื่อตรวจหาการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพอากาศชื้น

นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพประจำปียังช่วยให้เราวางแผนดูแลตัวเองได้อย่างรอบคอบ เช่น การรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ หรือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงขึ้น เพื่อให้สามารถรับมือกับทุกโรคที่อาจเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
 

สุขภาพ คือสิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลตัวเองและครอบครัว และให้ประกันสุขภาพเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะประกันสุขภาพจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่าย ทั้งการเข้ารักษาแบบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน หรือกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ

การเตรียมตัวรับมือกับฤดูฝนไม่เพียงช่วยป้องกันโรคภัยและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพโดยรวมให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ แล้ว การมีประกันสุขภาพที่เหมาะสมยังช่วยเสริมความมั่นใจว่า หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น คุณและครอบครัวจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ทั้งด้านการรักษาและค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในช่วงหน้าฝนได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจตลอดฤดูกาล

สุขภาพดีเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ เลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณและครอบครัว คลิกที่นี่เพื่อดูแผนประกันสุขภาพและสมัครเลย
 

ขอบคุณที่มาจาก 
- bangkokpattayahospital 
- krungsricard 
- HDMall