รู้หรือไม่ ซ่อมรถไม่ต้องกังวล เบิกค่าขาดประโยชน์หรือค่าเสียเวลาซ่อมรถได้

Highlight

•  การทำความเข้าใจเรื่องค่าเสียเวลาซ่อมรถและสิทธิในการชดเชยรายได้ช่วยให้ไม่พลาดโอกาสในการใช้สิทธิ์ที่ควรได้รับ
• รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง มีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยรายได้ขั้นต่ำวันละ 500 บาท ตามเงื่อนไขกรมธรรม์

เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนต้องนำรถเข้าซ่อม ส่งผลให้หลายคนอาจไม่มีรถใช้ในชีวิตประจำวัน จนทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจากการเดินทางตามมา ไม่นับเรื่องความรู้สึกที่ต้องใช้ชีวิตยากขึ้นกว่าเดิม แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า เราสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือค่าเสียเวลาซ่อมรถจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ วันนี้ ชับบ์ ชวนมารู้จักกับสิทธิสำคัญที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้รถทุกคน ที่เราควรทราบเพื่อรักษาสิทธิการได้รับเงินชดเชยนี้
 

ค่าเสียเวลาซ่อมรถ เบิกได้แต่หลายคนไม่เคยรู้

ค่าเสียเวลาซ่อมรถหรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ ค่าสินไหมที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด ต้องรับผิดชอบชดใช้ให้กับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก ในกรณีผู้ที่เป็นฝ่ายถูกไม่สามารถใช้รถตัวเองได้ระหว่างนำรถเข้าซ่อม หรือต้องใช้ยานพาหนะอื่นทดแทน เช่น รถไฟฟ้า แท็กซี่ หรือการเช่ารถยนต์ เป็นต้น ซึ่งเงินชดเชยรายได้นี้จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ที่เป็นฝ่ายถูกต้องดำเนินการเรียกร้องสิทธิค่าเสียเวลาซ่อมรถจากการใช้รถกับบริษัทประกันภัยของผู้ที่เป็นฝ่ายผิดด้วยตนเอง และฝ่ายผิดต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้ จึงจะเรียกร้องค่าชดเชยรายได้ในส่วนนี้ได้
 

ค่าเสียเวลาซ่อมรถ คำนวณและจ่ายค่าชดเชยอย่างไร

 การเรียกค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์นั้น กรมธรรม์ประกันภัยได้กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำของการชดใช้ค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์ไว้ เพื่อไม่ให้บริษัทประกันภัยของคู่กรณีฝ่ายผิดจ่ายเงินในจำนวนที่ต่ำเกินไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รวมผู้ขับขี่) ชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท
2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะไม่เกิน 7 ที่นั่ง ชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 700 บาท
3. รถยนต์เกิน 7 ที่นั่ง (รวมผู้ขับขี่) ชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท

ทั้งนี้ รถยนต์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ในข้อ 1 - 3 บริษัทประกันภัยจะชดเชยตามข้อเรียกร้องที่ตกลงกัน พิจารณาตามหลักฐานประกอบเป็นรายกรณีไป อาทิ เอกสารการใช้รถ เอกสารค่าเดินทางต่าง ๆ เป็นต้น

ตัวอย่างการคำนวณ เช่น ซ่อมรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่งเป็นเวลา 10 วัน ได้ค่าชดเชยวันละ 500 บาท รวมทั้งหมด 5,000 บาท

ในกรณีที่รถยนต์เสียหายหนักต้องรออะไหล่หรือรอซ่อมนานเกิน 30 วันสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์ที่เกิดขึ้นได้ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการส่งซ่อมจริง ซึ่งสามารถเรียกร้องได้ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ โดยเรียกร้องได้เฉพาะค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์ไม่รวมค่าขาดรายได้จากการทำงาน 
 

เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อเรียกร้องค่าเสียเวลาซ่อมรถ

• หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์ระหว่างซ่อม
• ใบรายการความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ
• ใบเคลมของเราและคู่กรณี (ใบรองรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน)
• สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
• สำเนาทะเบียนรถยนต์ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
• สำเนาบัตรประชาชน
• สำเนาใบขับขี่รถยนต์
• ใบนำรถยนต์ส่งซ่อมและใบรับรถยนต์ที่ออกให้โดยอู่ พร้อมระบุช่วงเวลาการซ่อมที่ชัดเจน
• รูปถ่ายก่อนซ่อม ขณะซ่อม และหลังซ่อมเสร็จ
• หลักฐานค่าใช้จ่ายขณะซ่อมรถ เช่น ใบเสร็จค่าเดินทาง และใบเสร็จค่าเช่ารถ (ถ้ามี)
• สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกันภัยรถยนต์ (สำหรับโอนค่าขาดประโยชน์ฯ)

ขั้นตอนการเรียกร้องค่าเสียเวลาซ่อมรถ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูกสามารถดำเนินการเรียกร้องค่าเสียเวลาซ่อมรถได้ ตามขั้นตอนดังนี้

1. ติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด
2. ยื่นคำร้องเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ ในช่วงที่รถกำลังซ่อมอยู่
3. บริษัทของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดแจ้งรายละเอียดเอกสารที่ต้องการ
4. จัดเตรียมเอกสารให้พร้อมและจัดส่งไปยังบริษัทของคู่กรณีตามที่อยู่ที่ได้รับแจ้ง
5. รอการติดต่อกลับจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณี
6. เจรจาต่อรองค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันภัยของคู่กรณี
7. เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย รอรับค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันภัยของคู่กรณี

หากคู่กรณีไม่มีประกันรถยนต์ควรทำอย่างไร

ในกรณีที่คู่กรณีไม่มีประกันรถยนต์และเราเป็นฝ่ายถูก สิ่งที่ทำได้คือการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์จากคู่กรณีโดยตรง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ไม่ได้ระบุเกณฑ์ขั้นต่ำในการจ่ายค่าชดเชยไว้ ทั้งนี้ ควรแจ้งความเพื่อบันทึกเป็นหลักฐานให้เรียบร้อย

ค่าขาดประโยชน์การใช้รถยนต์ หรือค่าเสียเวลาซ่อมรถ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเรียกร้องเงินชดเชยในกรณีที่เป็นฝ่ายถูก และบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
 

คุ้มครองทุกอุปสรรคบนท้องถนน ด้วยประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 จากชับบ์สามัคคีประกันภัย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 Chubb Smart Drive คุ้มครองครอบคลุมทั้งความเสียหายต่อตัวรถจากอุบัติเหตุและภัยธรรมชาติทุกชนิด ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ

• ทำได้ทั้งรถเก่าและรถใหม่ รับประกันภัยอายุรถสูงสุดถึง 15 ปี
• คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถจากอุบัติเหตุ รถสูญหาย น้ำท่วม ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติทุกชนิด รวมถึงคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมอื่น ๆ สูงสุด 25,000 บาท ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
• คุ้มครองกรณีถูกโจรกรรมทรัพย์สินภายในรถยนต์ สูงสุด 25,000 บาท
• ชดใช้ค่าสินไหมโดยไม่หักค่าเสื่อมราคา สำหรับความเสียหายต่อเครื่องเสียง กล้องติดรถยนต์ แบตเตอรี่ และของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ เป็นต้น
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง แบบครบวงจร อาทิ เปลี่ยนยางอะไหล่ บริการรถยกลาก รวมถึงชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค่าเดินทางต่อเนื่อง ค่าที่พักกรณีรถเสีย พร้อมบริการให้คำแนะนำฉุกเฉิน โทร. 02-039-5720