ข้ามไปหน้าหลัก
การเดินทาง

10 ขั้นตอนในการรับมือกับอาการเจ็ตแล็ก

05/2021
flight schedule

มีนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถพูดได้ว่าพวกเขาไม่เคยประสบกับอาการเจ็ตแล็กในการเดินทางระหว่างประเทศเลย ในขณะที่ยังไม่มีวิธีรักษาอาการดังกล่าว เรามีวิธีบรรเทาอาการเพื่อให้การบินข้ามโซนเวลาของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น ลองทำตาม10 ขั้นตอนของเราดังต่อไปนี้

 

ก่อนขึ้นเครื่องบิน

 

  1. อาการเจ็ตแล็กไม่ใช่เป็นเพียงอาการเหนื่อยล้า

    แน่นอนว่าการบินในระยะทางไกลๆ สามารถทำให้คุณมีอาการเหนื่อยล้าและขาดน้ำได้ แต่อาการดังกล่าวนั้นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด อาการเจ็ตแล็กจะเกิดขึ้นได้เมื่อนาฬิกาชีวิต (หรือที่เรียกว่านาฬิกาชีวิภาพ)เดินไม่ตรงกับเวลาท้องถิ่น ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไขนานกว่าปัญหาข้างต้น นักธุรกิจที่มีประสบการณ์เดินทางเป็นประจำจึงมักจะเริ่มเตรียมตัวล่วงหน้า 2-3 วันก่อนเดินทาง โดยปรับวิถีชีวิตให้ใกล้เคียงกับเวลาของประเทศปลายทาง แน่นอนว่าในกรณีที่คุณต้องข้ามเขตเวลาที่ต่างกันถึง 12 ชม. คุณคงไม่สามารถอยู่โต้รุ่งได้ถึง 8 โมงเช้าและนอนในช่วงกลางวัน แต่คุณสามารถขยับช่วงเวลากิจวัตรประจำวันขึ้น 2-3 ชม. เพื่อบรรเทาอาการที่ร่างกายปรับตัวไม่ทัน

  2. มีความสมเหตุสมผล

    ในทางทฤษฎี การเข้านอนดึกก่อนเดินทางเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยล้ามากขึ้นแล้วไปงีบหลับบนเครื่องบินอาจฟังดูน่าสนใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว วิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลและคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าเดิม วิธีเดินทางที่ดีที่สุดคือการเดินทางหลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

  3. งดทานอาหาร

    เราไม่สามารถรับประกันข้อนี้ได้ แต่มีนักเดินทางบางคนที่งดทานอาหารเพื่อรับมือกับอาการเจ็ตแล็ก พิจารณาเวลาที่คุณจะได้รับประทานอาหารเช้าที่จุดหมายปลายทางต่อไป นับถอยหลังไป 16 ชม. และเริ่มหยุดรับประทานอาหารที่ช่วงเวลานั้น เหตุผลคือการทานอาหารเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ขับเคลื่อนการทำงานของนาฬิกาชีวิต การงดอาหารจะช่วยให้คุณสามารถตั้งนาฬิกาชีวิภาพใหม่ได้ แน่นอนว่าคุณอาจรู้สึกโมโหหิวบนเครื่องบินได้ ดังนั้น วิธีการนี้อาจใช้ไม่ได้กับทุกคน

     

บนเครื่องบิน

 

  1. ระวังเรื่องการดื่ม

    การซื้อเครื่องดื่มจากรถเข็นเครื่องดื่มอาจช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย แต่คุณอาจเกิดอาการขาดน้ำได้หากคุณเลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยปกติแล้วอากาศบนเครื่องบินมักจะแห้งมาก คุณจึงไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการขาดน้ำส่งผลให้เกิดอาการเจ็ตแล็กที่รุนแรงขึ้นและยังทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้ด้วย ดังนั้นควรดื่มน้ำเปล่าแทน

  2. รับประทานอาหารที่เหมาะสม

    จากการศึกษาพบว่าการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงจะทำคุณรู้สึกง่วงนอน ในขณะที่โปรตีนให้ผลในทางตรงกันข้าม หากจุดหมายปลายทางอยู่ทิศตะวันออก การรับประทานคาร์โบไฮเดรตบนเครื่องบินจะช่วยให้คุณนอนหลับสบายยิ่งขึ้นเมื่อไปถึงจุดหมาย ในทางกลับกัน หากจุดหมายปลายทางอยู่ทิศตะวันตกและคุณต้องตื่นตัวตลอดทั้งวัน คุณก็ไม่ควรรับประทานขนมปังของสายการเครื่องบินมากเกินไป

  3. ขยับตัวบนเครื่องบิน

    พื้นที่แคบๆ บนเครื่องบินจะทำให้ขยับตัวได้ยากและคุณก็ควรเห็นใจผู้โดนสารคนอื่นด้วย (อย่าวิดพื้นตรงทางเดินล่ะ) แต่การออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆทุกชั่วโมงไม่เพียงช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นแต่ยังมีส่วนช่วยป้องกันการจับตัวของลิ่มเลือดด้วย สายการบินส่วนใหญ่จะพิมพ์เคล็ดลับการออกกำลังกายไว้ในนิตยสารบนเครื่อง ดังนั้นคุณควรลองยืดเส้นยืดสายตามเคล็ดลับนั้นเพื่อป้องกันอาการเจ็ตแล็ก

     

ณ จุดหมายปลายทาง

 

  1. ควบคุมการนอนหลับของคุณ

    หลังจากได้ห้องโรงแรมของตัวเองแล้ว คุณก็คงอยากจะล้มตัวนอนทันที แต่คุณควรดูเวลาเสียก่อน หากเลยบ่ายโมงไปแล้ว คุณก็ควรตื่นตัวตอนกลางวันแล้วค่อยนอนตอนหัวค่ำ หากยังไม่ถึงบ่ายโมง คุณก็อาจงีบหลับสักสองสามชั่วโมงได้ แต่คุณจำเป็นต้องตื่นให้ตรงเวลาด้วย แน่นอนว่าการหลับยาวแปดชั่วโมงจะรู้สึกเต็มอิ่มกว่าการหลับแค่สองชั่วโมง แต่การทำเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับของคุณในระยะยาวได้ ยิ่งคุณสามารถปรับรูปแบบการนอนหลับให้เข้ากับเวลาท้องถิ่นเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายเร็วเท่านั้น

  2. หลีกเลี่ยงคาเฟอีน

    การดื่มกาแฟสักครั้งสองครั้งเพื่อให้ตื่นตัวระหว่างวันถือเป็นเรื่องปกติ แต่คุณก็ควรดูเวลาด้วยเพื่อให้แน่ใจได้ว่าร่างกายจะสามารถกำจัดคาเฟอีนออกหมดก่อนจะถึงเวลาเข้านอน เอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตตอน 6 โมงเย็นอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนักหากคุณวางแผนที่จะนอนแต่หัวค่ำ

  3. สูดอากาศสดชื่นป้องกันอาการเจ็ตแล็ก

    ออกไปข้างนอก ออกไปสำรวจเมืองและออกกำลังกายสักหน่อย อาจจะไม่ต้องถึงขั้นวิ่งมาราธอน แค่เพียงกิจกรรมเบาๆ ก็จะสามารถช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัว อีกทั้งยังทำให้คุณรู้สึกว่าไม่เสียเวลาในวันแรกของจุดหมายปลายทางไปโดยเปล่าประโยชน์

  4. และสุดท้าย...

    การเดินทางสั้นๆ อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพยายามปรับตัวอะไร การเดินทางแบบนี้ต้องมีกำหนดการที่ยืดหยุ่น ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากที่สุด

     

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา
ติดต่อเรา

เผชิญโลกกว้างอย่างไร้กังวล

ด้วยประกันภัยการเดินทางที่คุ้มครองทั่วโลก