6 กองทุนที่เป็นหลักประกันชีวิตในวัยเกษียณ
ท่ามกลางโลกการทำงานที่หมุนเร็วและความคาดหวังจากสังคมที่ไม่หยุดนิ่ง เทรนด์อยากเกษียณไวหรือการออกจากงานก่อนวัยเกษียณกำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ไม่ใช่เพราะขี้เกียจทำงาน แต่เพราะหลายคนอยากมีอิสระในการใช้ชีวิต อยากทำสิ่งที่รัก และอยากเลือกเส้นทางของตัวเองมากกว่าการอยู่ในกรอบการทำงานไปจนถึงอายุ 60
แนวคิด FIRE หรือ Financial Independence, Retire Early จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถทำได้จริง ขอแค่เริ่มวางแผนให้ถูกวิธีและเริ่มตั้งแต่วันนี้คุณก็มีโอกาส เกษียณเร็วอย่างอิสระได้เช่นกัน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักแนวคิด FIRE อย่างลึกซึ้ง และแนะนำวิธีวางแผนเกษียณเร็วแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณเอง เพื่อชีวิตที่อิสระกว่าที่เคย
FIRE ย่อมาจาก Financial Independence, Retire Early หรือแปลตรงตัวว่า “อิสรภาพทางการเงิน และเกษียณก่อนวัย” เป็นแนวคิดที่เน้นการวางแผนการเงินอย่างมีเป้าหมาย เพื่อให้สามารถ “หยุดทำงานประจำ” ได้เร็วกว่าระบบเกษียณแบบเดิม โดยยังคงมีรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างมั่นคง
หัวใจของ FIRE คือการ เก็บเงินและลงทุนให้เพียงพอ จนสามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากงานประจำอีกต่อไป คุณอาจยังเลือกทำงานอยู่ก็ได้ หากอยากทำ แต่ไม่จำเป็นต้องทำเพียงเพื่อเลี้ยงชีพอีกแล้ว
| การเกษียณแบบดั้งเดิม | แนวคิด FIRE | |||
| อายุเกษียณโดยทั่วไป | 55–60 ปีขึ้นไป | 30–45 ปี หรือเร็วกว่านั้น | ||
| แหล่งรายได้หลังเกษียณ | เงินบำนาญ / เงินสะสมจากบริษัท | รายได้จากการลงทุนหรือทรัพย์สิน | ||
| เป้าหมายชีวิต | หยุดทำงานเมื่ออายุมาก | มีอิสระในการใช้ชีวิตเร็วขึ้น | ||
| แนวทางการเงิน | ออมในระยะยาว | ออมอย่างเข้มข้นลงทุนต่อเนื่อง |
แนวคิด FIRE ไม่ได้หมายถึงการไม่ทำงานอีกเลย แต่คือการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้เร็วที่สุด เพื่อให้คุณมีตัวเลือกในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกพักผ่อน ท่องเที่ยว ทำงานที่รัก หรือเริ่มธุรกิจส่วนตัวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินในทุกสิ้นเดือน
การจะไปถึงเป้าหมาย FIRE (เกษียณเร็วอย่างอิสระ) ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่ต้องอาศัย วินัย ความรู้ และแผนการเงินที่ชัดเจน โดยมีหลักการสำคัญที่คุณควรรู้และนำไปใช้ ดังนี้
จุดเริ่มต้นของการวางแผน FIRE คือ การมี รายได้มากกว่ารายจ่าย และรักษาสมดุลนี้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจดูเหมือนพื้นฐานทั่วไป แต่เป็นหัวใจสำคัญของความมั่งคั่ง
หากคุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้เสริม ความเร็วในการไปถึง FIRE ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น กาแฟรายวัน หรือของใช้ฟุ่มเฟือย
เพิ่มรายได้เสริม เช่น งานฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือลงทุนในความรู้เพื่อเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น
หนึ่งในสิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างคนทั่วไปกับผู้ที่ทำ FIRE คือ อัตราการออมที่สูงมาก โดยผู้ที่ตั้งใจจะเกษียณเร็วจะออมเงินอย่างน้อย 50% และบางคนออมได้ถึง 70% ของรายได้เลยทีเดียว
หากคุณมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน และสามารถออมได้ 60% นั่นคือคุณเก็บเงินได้ 30,000 บาทต่อเดือน หรือ 360,000 บาทต่อปี
แน่นอนว่าการออมในระดับนี้อาจต้องมีการปรับไลฟ์สไตล์ เช่น ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พิจารณาทุกการใช้จ่าย และมีเป้าหมายชัดเจนว่าความอิสระในอนาคตคุ้มค่ากับการเสียสละในวันนี้จริงๆ
การออมอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะอัตราดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ การลงทุนจึงเป็น “กลไกสำคัญ” ในการทำให้เงินเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หุ้น เหมาะกับผู้ที่มีความรู้ด้านการลงทุนและรับความเสี่ยงได้สูง ให้ผลตอบแทนระยะยาวดี
กองทุนรวม / ETF ทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากกระจายความเสี่ยง
อสังหาริมทรัพย์ ลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรือขายเก็งกำไร ให้รายได้แบบ Passive Income
เป้าหมายของการลงทุนไม่ใช่แค่ “รวยเร็ว” แต่คือการสร้างกระแสเงินสดหรือผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว
สูตรยอดนิยมของชาว FIRE เพื่อกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการก่อนที่จะเกษียณ นั่นคือการนำ “ค่าใช้จ่ายรายปี” ทั้งหมดที่คุณคาดว่าจะใช้หลังเกษียณมาคูณด้วย 25 ผลลัพธ์ที่ได้คือจำนวนเงินลงทุนที่คุณต้องมี เพื่อให้สามารถถอนเงินมาใช้ได้ 4% ต่อปี (The 4% Rule) โดยที่เงินต้นยังคงเติบโตต่อไปในระยะยาว
ค่าใช้จ่ายต่อปี x 25 = จำนวนเงินที่ต้องมีเพื่อเกษียณ
เช่น
หากคุณต้องการใช้ชีวิตปีละ 400,000 บาท
→ 400,000 x 25 = 10,000,000 บาท
คือจำนวนเงินที่คุณควรมีในพอร์ตการลงทุนเพื่อเกษียณได้อย่างอิสระ
สูตรนี้ตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่า คุณสามารถถอนเงินมาใช้ได้ปีละ 4% ของพอร์ตลงทุนโดยไม่ทำให้เงินต้นหมด ที่รู้จักกันในชื่อ "4% Rule"
ข้อควรระวัง ควรคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ ค่ารักษาพยาบาล และความเสี่ยงจากตลาดการเงินด้วย
แม้แนวคิด FIRE จะมีเป้าหมายเดียวกันคือ อิสรภาพทางการเงินและการเกษียณเร็ว แต่เส้นทางของแต่ละคนอาจแตกต่างกันตามรูปแบบการใช้ชีวิต ความคาดหวัง และระดับรายจ่ายที่ยอมรับได้
FIRE จึงแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ซึ่งแต่ละแบบมีแนวทางและเงื่อนไขที่ต่างกันไป ลองดูว่าคุณเหมาะกับแบบไหนมากที่สุด
Lean FIRE คือแนวทางสำหรับคนที่ต้องการเกษียณเร็วมาก โดยลดค่าใช้จ่ายลงให้น้อยที่สุด และเลือกใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย เน้นความพอเพียง
ใช้ชีวิตด้วยงบจำกัด เช่น ปีละไม่เกิน 200,000–300,000 บาท
อยู่ในพื้นที่ที่ค่าครองชีพต่ำ เช่น ต่างจังหวัด หรือย้ายไปประเทศที่ถูกกว่า (Geoarbitrage)
ไม่ยึดติดกับแบรนด์หรูหรือไลฟ์สไตล์หรูหรา
มุ่งเน้นการออมสูงและลดความซับซ้อนในชีวิต
เหมาะกับคนที่สามารถลดมาตรฐานความสะดวกสบายลงเพื่อแลกกับอิสระที่เร็วขึ้น
Fat FIRE คือแนวทางสำหรับผู้ที่อยากเกษียณเร็วเช่นกัน แต่ไม่ต้องการลดคุณภาพชีวิตหรือความสะดวกสบาย เหมือนที่เคยมีตอนทำงานประจำ
ต้องการรายได้หลังเกษียณสูง เช่น ปีละ 600,000–1,000,000 บาทขึ้นไป
ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้าร้านอาหารดี ๆ ได้เหมือนเดิม
เน้นการสร้างสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น พอร์ตหุ้น อสังหาฯ หรือธุรกิจส่วนตัว
ต้องออมเยอะกว่าค่าเฉลี่ย หรือมีรายได้สูงมากเป็นทุนเดิม
เหมาะกับคนที่มีศักยภาพทางการเงินสูง และต้องการ “เกษียณอย่างหรู” โดยไม่ต้องตัดทอนสิ่งที่ชอบ
Barista FIRE มาจากภาพของคนที่เกษียณจากงานประจำเต็มเวลาแล้วไปทำงานเสริมเบา ๆ เช่น บาริสต้า งานฟรีแลนซ์ หรือขายของออนไลน์ เป็นต้น เพื่อให้มีรายได้เสริมมาจุนเจือค่าใช้จ่ายบางส่วน
มีเงินเก็บพอสมควร แต่ยังไม่ถึงจุด Fat FIRE
ใช้รายได้จากงานพาร์ทไทม์เพื่อเลื่อนเวลาถอนเงินจากพอร์ตลงทุน
ทำงานในแบบที่มีอิสระมากขึ้น เช่น เลือกชั่วโมงทำงานเอง
เหมาะสำหรับคนที่ยังอยากทำงานบางส่วนแต่ไม่อยากอยู่ในระบบงานประจำ
เหมาะกับคนที่ต้องการผสมผสานชีวิตแบบกึ่งเกษียณ มีรายได้เพียงพอ แต่อยากทำงานเพื่อเติมเต็มชีวิต การทำงานเบา ๆ หลังการเกษียณนี้สามารถช่วยให้คุณรักษาความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้หากคุณมีแผนการเงินที่ดี เพื่อเตรียมพร้อมในการเกษียณและรักษาสถานะทางการเงินให้มั่นคงในอนาคต คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการทำตาม8 ขั้นตอนสู่ความมั่นคงทางการเงิน ที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
แนวคิด FIRE (Financial Independence, Retire Early) ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแส แต่สะท้อนถึง ความเปลี่ยนแปลงด้านค่านิยม ความคาดหวัง และทัศนคติของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ที่มองการทำงาน ชีวิต และความมั่นคงในมุมที่ต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ และนี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ FIRE ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ความเบื่อหน่ายกับงานประจำ หลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการทำงานแบบ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ความกดดันจากการทำงาน และวัฒนธรรมองค์กรที่อาจไม่เอื้อต่อความสุข ทำให้มองหาทางออกที่เร็วกว่าการรอเกษียณตามปกติ
อยากมีเวลาทำสิ่งที่รัก การมีอิสระทางการเงินหมายถึงการมีเวลามากขึ้นเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองรัก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางรอบโลก การใช้เวลากับครอบครัว การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรือการพัฒนาทักษะส่วนตัว เป็นต้น
ค่านิยมใหม่เรื่อง Work-Life Balance คนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสมดุลชีวิตและการทำงานมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว การมีอิสรภาพทางการเงินช่วยให้พวกเขาสามารถสร้าง Work-Life Balance ในแบบที่ต้องการได้
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและความผันผวนของตลาดแรงงาน ทำให้หลายคนตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วยตัวเอง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
แม้หลักการสำคัญของ FIRE คือการเร่งออมและลงทุน แต่การจะไปถึงเป้าหมายและใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างไร้กังวลนั้น ต้องอาศัย การวางแผน FIRE ในชีวิตประจำวัน และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้านด้วย ไม่ใช่แค่การเก็บเงินให้ได้เยอะที่สุดแล้วจบไป
การบริหารความเสี่ยง เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดฝัน หนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดหลังเกษียณคือค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในวัยที่ไม่สามารถทำงานสร้างรายได้แล้ว การมีเงินสำรองสำหรับค่ารักษาพยาบาล หรือการมี ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไม่มีแผนรองรับ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจบั่นทอนเงินเก็บของคุณจนหมดได้
ภาษีและเงินเฟ้อในระยะยาว เงินเฟ้อคือศัตรูตัวฉกาจของเงินออม มูลค่าเงิน 10 ล้านบาทในวันนี้ อาจมีกำลังซื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอีก 20-30 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ การวางแผนภาษีในการถอนเงินลงทุนออกมาใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้เงินของคุณสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ตลอดไป การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในระยะยาวเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการใช้บัญชีลงทุนที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี (เช่น SSF/RMF หากมี) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออมและลดภาระภาษี
บทบาทของ “เครื่องมือทางการเงิน” ที่ช่วยให้ FIRE เป็นจริงได้ เพื่อให้แผน FIRE ของคุณมั่นคงยิ่งขึ้น การเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในระยะยาว
แม้แนวทาง FIRE จะเน้นการออมและการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว แต่ก็ไม่ควรมองข้าม “เครื่องมือการเงินที่มีความแน่นอน” อย่าง ประกันเกษียณอายุ และ ประกันสะสมทรัพย์ เพราะสองสิ่งนี้สามารถทำหน้าที่เป็น เกราะป้องกัน และ เงินสำรอง ที่ช่วยให้แผน FIRE ของคุณมั่นคงยิ่งขึ้น
ประกันเกษียณอายุ หรือที่เรียกว่า ประกันบำนาญ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการวางแผนทางการเงินสำหรับชีวิตหลังเกษียณโดยเฉพาะ โดยทั่วไปแล้ว ผู้เอาประกันจะจ่ายเบี้ยประกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อครบกำหนดอายุที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ (เช่น 55 หรือ 60 ปี) จะเริ่มได้รับเงินบำนาญเป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอไปจนตลอดชีวิต หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
ช่วยให้มั่นใจว่าจะมีรายได้ที่แน่นอนในวัยเกษียณ ลดความผันผวนจากการลงทุนเพียงอย่างเดียว เป็นเสมือนฐานราก ที่มั่นคงของกระแสเงินสดหลังเกษียณ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารเงินทุนทั้งหมดด้วยตัวเอง นอกจากนี้ เบี้ยประกันบำนาญยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
ประกันสะสมทรัพย์ เป็นการออมเงินในรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนควบคู่ไปกับการคุ้มครองชีวิต ผู้เอาประกันจะจ่ายเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อครบกำหนดสัญญา จะได้รับเงินก้อนพร้อมผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ นอกจากนี้ ยังได้รับความคุ้มครองชีวิตในระหว่างที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้
เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างวินัยในการออมเงินในระยะยาว และได้ผลตอบแทนที่แน่นอนกว่าการฝากธนาคารทั่วไป เงินที่ได้รับคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาสามารถนำไปต่อยอดลงทุน หรือเป็นเงินก้อนสำรองฉุกเฉิน เสริมสภาพคล่องให้กับแผน FIRE โดยเฉพาะหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ประกันสะสมทรัพย์ยังให้ความคุ้มครองชีวิต เป็นเหมือนตาข่ายนิรภัยสำหรับผู้ที่ต้องพึ่งพารายได้จากการลงทุนเป็นหลัก
หากมีความิตั้งใจจะ FIRE ตอนอายุ 45 ปี
คุณอาจทำ ประกันสะสมทรัพย์ ตั้งแต่อายุ 30 ปี เพื่อให้ได้เงินคืนตอนอายุ 45 หรือ 50 ปี มาใช้เป็นเงินก้อนตั้งต้นหลัง FIRE
จากนั้นซื้อ ประกันเพื่อวางแผนเกษียณ ที่ให้เงินคืนทุกปีตั้งแต่อายุ 60–85 ปี เพื่อสร้าง “รายได้ถาวรระยะยาว” หลังหมดช่วง Barista FIRE
การใช้ประกันทั้งสองแบบร่วมกับการลงทุน เช่น กองทุนหรือหุ้น ช่วยให้คุณมี รายได้ที่แน่นอนและรายได้จากการลงทุน เสริมกัน ทำให้แผน FIRE มีความยั่งยืนมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตที่เหลืออย่างอิสระ
แนวคิด FIRE หรือ Financial Independence, Retire Early ไม่ใช่เพียงการหนีจากงานประจำ แต่คือการวางแผนชีวิตอย่างมีเป้าหมาย เพื่อให้คุณมีอิสรภาพในการเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากงานประจำตลอดไป การไปถึงเป้าหมายนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หากเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมการเงิน เช่น ออมให้มากขึ้น ใช้จ่ายอย่างมีสติ และลงทุนอย่างรอบคอบ พร้อมกับเสริมความมั่นคงด้วยเครื่องมือการเงินที่มีความแน่นอนอย่างประกันเพื่อวางแผนเกษียณ ุ และ ประกันสะสมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยสร้างเงินสำรองและรายได้ประจำในระยะยาวให้กับแผน FIRE ของคุณ หากคุณกำลังมองหาชีวิตที่มีอิสระมากขึ้น อย่ารอให้ถึงวัยเกษียณ แต่ออกแบบอนาคตของคุณตั้งแต่วันนี้
ข้อมูลอ้างอิง
6 กองทุนที่เป็นหลักประกันชีวิตในวัยเกษียณ
รับมือกับชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุข
เกษียณสุขใจ ไร้กังวล เตรียมรับมือค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ