
10 วิธีวางแผนการเงินสำหรับทุกวัย ที่ช่วยให้ชีวิตมั่งคั่งอย่างมั่นคง
ในยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว Affiliate Marketing หรือการตลาดแบบพันธมิตร กำลังเป็นโมเดลธุรกิจออนไลน์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยมูลค่าตลาดทั่วโลกที่พุ่งสูงถึง 15.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตถึง 27.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 โอกาสในการสร้างรายได้จาก Affiliate Marketing นั้นมีมากมาย โดยมีนักการตลาดถึง 11.7% ที่สามารถสร้างรายได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อเดือน บทความนี้จะเป็นคู่มือครอบคลุมทุกแง่มุมของ Affiliate Marketing เพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นและพัฒนาธุรกิจ Affiliate ได้ในยุคที่ตลาดกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
Affiliate Marketing หรือ การตลาดพันธมิตร คืออะไรกันแน่? เป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาดออนไลน์ที่ผู้โฆษณา (Advertiser) จะจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคคลอื่นที่เรียกว่า Affiliate เมื่อ Affiliate สามารถนำลูกค้ามาให้กับผู้โฆษณาได้สำเร็จผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ บล็อก โซเชียลมีเดีย หรืออีเมล โดย Affiliate จะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามที่ตกลงกันไว้เมื่อมีการขายเกิดขึ้น
ลองนึกภาพว่า Affiliate เป็นเหมือนตัวแทนขายสินค้าหรือบริการให้กับบริษัทอื่น โดยได้รับส่วนแบ่งจากยอดขายที่เกิดขึ้นจากการแนะนำของตนเอง ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อยคือ บล็อกเกอร์ด้านเทคโนโลยีที่รีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ พร้อมแนบลิงก์ไปยังร้านค้าออนไลน์ หรือนักรีวิวท่องเที่ยวที่แนะนำโรงแรมพร้อมลิงก์จองห้องพัก
Advertiser (เจ้าของสินค้า/บริการ)
คือผู้ที่มีสินค้าหรือบริการที่ต้องการขาย
สร้างโปรแกรม Affiliate และกำหนดค่าตอบแทน
ตัวอย่าง: ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์, บริษัทผู้ให้บริการโฮสติ้ง
Publisher (ผู้โปรโมท)
คือผู้ที่ทำหน้าที่โปรโมทสินค้าหรือบริการของ Advertiser
สร้างเนื้อหา รีวิว หรือโฆษณาเพื่อแนะนำสินค้า
ตัวอย่าง: บล็อกเกอร์แฟชั่น, ยูทูบเบอร์รีวิวเทคโนโลยี
Customer (ผู้บริโภค)
คือกลุ่มเป้าหมายที่อาจสนใจซื้อสินค้าหรือบริการ
คลิกลิงก์ Affiliate และทำการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
Affiliate Network (ตัวกลาง) หรือ ระบบ Affiliate Platform
เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยง Advertiser กับ Publisher
จัดการระบบติดตามยอดขาย การจ่ายค่าคอมมิชชั่น และรายงานผล
ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันได้สะดวกขึ้น
ตัวอย่าง: Amazon Associates, Clickbank, ShareASale
โมเดลนี้ทำงานร่วมกันดังนี้ Advertiser สร้างโปรแกรม Affiliate ผ่าน Affiliate Network, Publisher เข้าร่วมโปรแกรมและโปรโมทสินค้า Customer เห็นโฆษณาและซื้อสินค้า Affiliate Network ติดตามยอดขายและจัดการจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ Publisher ตามที่ Advertiser กำหนด
Affiliate Marketing มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบจะมีวิธีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับ Affiliate แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของ Advertiser และการกระทำของลูกค้า
1. Pay Per Sale (PPS) หรือ จ่ายเมื่อมีการขาย
Affiliate จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิงก์อ้างอิงของตนเอง ซึ่งรวมถึงการสมัครสมาชิกบริการ หรือการอัปเกรดแพ็คเกจ
ข้อดี: เป็นรูปแบบที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา ทั้ง Advertiser และ Affiliate รู้ว่าจะได้รับผลตอบแทนเมื่อใด
ตัวอย่าง: Affiliate แนะนำหนังสือใน Amazon ได้ 10% ของราคาหนังสือเมื่อมีคนซื้อผ่านลิงก์
2. Pay Per Click (PPC) หรือ จ่ายเมื่อมีการคลิก
Affiliate จะได้รับค่าคอมมิชชั่นทุกครั้งที่มีคนคลิกลิงก์อ้างอิงของตน ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือไม่ก็ตาม บางครั้งเรียกว่า Cost Per Click (CPC)
ข้อดี: เหมาะสำหรับโปรโมตแบรนด์หรือสร้างการรับรู้
ข้อเสีย: อาจมีค่าใช้จ่ายสูงหากมีการคลิกจำนวนมาก แต่ไม่ได้นำไปสู่การขาย
ตัวอย่าง: Affiliate ได้รับ 0.10 ดอลลาร์ทุกครั้งที่มีคนคลิกแบนเนอร์โฆษณาบนเว็บไซต์
3. Pay Per Lead (PPL) หรือ จ่ายเมื่อได้ Lead
Affiliate จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อมีลูกค้าทำตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น สมัครรับข่าวสาร, กรอกแบบฟอร์ม, หรือดาวน์โหลดอีบุ๊ก
ข้อดี: ช่วยให้ Advertiser ได้ข้อมูลลูกค้าเป้าหมาย
ข้อเสีย: อาจต้องติดตามผลเพิ่มเติมเพื่อแปลง Lead ให้เป็นลูกค้า
ตัวอย่าง: Affiliate ได้รับ 5 ดอลลาร์เมื่อมีคนสมัครทดลองใช้ซอฟต์แวร์ฟรี
4. Pay Per Install (PPI) หรือ จ่ายเมื่อมีการติดตั้ง
จ่ายเมื่อมีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นหรือซอฟต์แวร์
นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเกมและแอพมือถือ
ข้อดี: เหมาะสำหรับโปรโมตแอปพลิเคชันใหม่
ข้อเสีย: อาจมีการโกงได้ง่าย หากไม่มีระบบตรวจสอบที่เข้มงวด
ตัวอย่าง: Affiliate ได้รับ 0.50 ดอลลาร์ทุกครั้งที่มีคนดาวน์โหลดและติดตั้งเกมมือถือ
แต่ละประเภทมีข้อดีและความเสี่ยงต่างกัน PPS อาจให้ผลตอบแทนสูงแต่ยากกว่า PPC ง่ายแต่อาจมีการคลิกโดยไม่ตั้งใจ PPL และ PPI เหมาะสำหรับสร้างฐานลูกค้าแต่อาจไม่นำไปสู่การขายทันที การเลือกประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้า/บริการและกลยุทธ์ทางการตลาด
สร้างรายได้แบบ Passive Income Affiliate Marketing สร้างรายได้แบบอัตโนมัติ 24/7 แม้ในยามไม่ได้ทำงาน เนื้อหาที่สร้างไว้สามารถสร้างยอดขายและรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยไม่ต้องลงแรงเพิ่มเติม
ความยืดหยุ่นในการทำงาน ทำงานได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต และกำหนดเวลาทำงานได้เอง ช่วยสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว
ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ ใช้เงินลงทุนน้อย เพียงมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเริ่มต้นได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินค้าหรืออุปกรณ์ราคาแพง
ไม่ต้องจัดการสินค้าและบริการหลังการขาย ไม่ต้องกังวลเรื่องสต็อกสินค้า การจัดส่ง หรือบริการลูกค้า สามารถโฟกัสที่การสร้างเนื้อหาและกลยุทธ์การตลาดได้เต็มที่
โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการตลาดดิจิทัล ได้ฝึกฝนทักษะด้านการตลาดดิจิทัล เช่น การสร้างเนื้อหา SEO การทำโฆษณาออนไลน์ และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นทักษะที่มีค่าในตลาดปัจจุบัน
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ สามารถเลือกทำงานกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตามความสนใจ และปรับเปลี่ยนได้ง่ายหากต้องการทดลองกับสินค้าใหม่
สามารถขยายธุรกิจได้อย่างไม่จำกัด ขยายธุรกิจได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกำลังการผลิตหรือการจ้างพนักงานเพิ่ม เพียงสร้างเนื้อหาเพิ่มหรือขยายช่องทางการตลาด ก็สามารถเพิ่มรายได้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
การเลือกนิชควรเริ่มจากความสนใจและความรู้ที่มีอยู่ เช่น งานอดิเรกหรือความเชี่ยวชาญในอาชีพ การค้นหาใน Google จะช่วยประเมินความนิยมของหัวข้อนั้น ๆ ได้รวมถึงดูว่ามีสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับแนะนำหรือไม่ นิชที่ดีควรเป็นเรื่องที่สามารถพูดถึงได้อย่างสม่ำเสมอและมีความสุขในการนำเสนอ
การเริ่มต้นอาจทำได้ด้วยการสร้างบล็อกฟรีบน Blogger หรือ WordPress.com หรือสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียเช่น Instagram หรือ Facebook Page ที่เกี่ยวกับนิชที่เลือก ควรเลือกแพลตฟอร์มที่สะดวกในการใช้งานและสามารถอัปเดตได้บ่อย
การสร้างเนื้อหาควรเริ่มจากการแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการในนิชที่เลือก เขียนรีวิวสินค้าที่เคยใช้ ให้เคล็ดลับหรือคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง และควรใส่รูปภาพประกอบเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
สำหรับผู้เริ่มต้น Amazon Associates เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากใช้งานง่ายและมีสินค้าหลากหลาย หลังจากสมัครเข้าร่วมโปรแกรม ควรเลือกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับนิชที่เลือกไว้ การอ่านเงื่อนไขและวิธีการใช้งานให้เข้าใจก่อนเริ่มโปรโมทเป็นสิ่งสำคัญ
การแทรกลิงก์ Affiliate ในเนื้อหาควรทำอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น "สินค้า [ชื่อสินค้า] นี้ได้รับความนิยมเพราะ... สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ [ใส่ลิงก์]" การใช้ปุ่ม "ซื้อเลย" หรือ "ดูรายละเอียด" ที่เห็นชัดเจนช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิก แต่ควรระวังไม่ให้ดูเหมือนการขายที่มากเกินไป
การตรวจสอบผลลัพธ์สามารถทำได้ผ่านแดชบอร์ดของโปรแกรม Affiliate ที่ใช้ ควรสังเกตว่าสินค้าใดมีคนคลิกมากที่สุดหรือสร้างยอดขายได้ดีที่สุด จากนั้นอาจสร้างเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้านั้น หรือหาสินค้าที่คล้ายกันมาแนะนำ การปรับปรุงเนื้อหาเก่าให้ดีขึ้นและสร้างเนื้อหาใหม่อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ
การเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing ควรทำทีละขั้นตอน ไม่เร่งรีบจนเกินไป และต้องเข้าใจว่าการสร้างรายได้ต้องใช้เวลาและความอดทน การเน้นสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์กับผู้อ่านเป็นหลักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
TikTok เป็นช่องทางทำเงินที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะ Affiliate Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จกับการทำ Affiliate Marketing บน TikTok เช่น การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง รีวิวผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่สนุกสนาน หรือการสร้าง Challenge ที่ท้าทายให้ผู้ชมร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
เทคนิคและกลยุทธ์ที่ใช้สำหรับเจ้าของธุรกิจ
เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช่: เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีกลุ่มเป้าหมายตรงกับผลิตภัณฑ์
สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ: สร้างวิดีโอที่สั้น กระชับ และน่าจดจำ
ใช้ Hashtag ให้เกิดประโยชน์: ช่วยให้คนค้นหาเจอง่ายขึ้น
ร่วมมือกับครีเอเตอร์: ขยายฐานลูกค้าได้เร็วขึ้น
ติดตามผลลัพธ์: ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
สำหรับผู้ที่สนใจทำ Affiliate เพื่อสร้างรายได้
สร้างตัวตน เป็นตัวของตัวเอง
แนะนำสินค้าที่ใช้จริง ซื่อสัตย์กับคนดู
เลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตัวตนและคนที่ติดตาม
ท้ายที่สุด Affiliate Marketing เป็นโอกาสทางธุรกิจออนไลน์ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนมหาศาลหรือความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ความสำเร็จเกิดจากการเลือกนิชที่เหมาะสม การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ และการใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องและการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญ แม้อาจมีอุปสรรคในช่วงแรก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอ ทุกคนมีโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคงจาก Affiliate Marketing ได้ การเริ่มต้นวันนี้อาจเป็นก้าวแรกสู่อิสรภาพทางการเงินและการทำงานที่ยืดหยุ่นในอนาคต และอย่าลืมพิจารณาการวางแผนการเงินระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ หรือการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจ Affiliate Marketing อย่างยั่งยืน
ที่มา
business2community
10 วิธีวางแผนการเงินสำหรับทุกวัย ที่ช่วยให้ชีวิตมั่งคั่งอย่างมั่นคง
วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาง่าย ๆ พร้อมตัวอย่าง
เคล็ดลับจัดการภาษี สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ คู่มือฉบับเข้าใจง่าย
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ