คู่มือขอคืนภาษี รู้ก่อน ยื่นก่อน ได้เงินคืนไว ครบ จบ ในที่เดียว
หากยื่นแบบฯ ภายในกำหนดเวลา และมีภาษีที่ต้องชำระตั้งแต่ 3,000 บาท ขึ้นไป สามารถขอผ่อนชำระได้ 3 งวด
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เปรียบเสมือนภาระหน้าที่ของพลเมืองที่พึงปฏิบัติ การเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกำหนด ช่วยให้ภาครัฐมีรายได้นำมาพัฒนาประเทศ สร้างประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม แต่สำหรับผู้เสียภาษีเอง ความเข้าใจในระบบภาษี วิธีการคำนวณ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ล้วนส่งผลต่อภาระค่าใช้จ่าย การวางแผนการเงิน และโอกาสในการประหยัดภาษี
บทความนี้จะเป็นคู่มือสำหรับบุคคลทั่วไป ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อธิบายทีละขั้นตอนอย่างละเอียด เข้าใจง่าย ครอบคลุมตั้งแต่การคำนวณเงินได้สุทธิ หักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน ไปจนถึงวิธีคำนวณภาษีตามอัตราภาษีแบบก้าวหน้า พร้อมตัวอย่างประกอบ และรายการค่าลดหย่อนภาษีที่หลากหลาย ด้วยความรู้และความเข้าใจในระบบภาษี ผู้เสียภาษีจะสามารถวางแผนการเงิน ลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้อง ประหยัดเงิน และเสียภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ
การยื่นภาษีเป็นหน้าที่สำคัญของพลเมือง แต่หลายคนอาจสงสัยว่าควรเริ่มยื่นเมื่อไหร่ ต่อไปนี้คือกำหนดการสำคัญที่ทุกคนควรทราบ บุคคลธรรมดาต้องยื่นแบบภาษีตามลักษณะรายได้ มนุษย์เงินเดือนทั่วไปยื่นปีละครั้งภายใน 31 มีนาคมของปีถัดไป ส่วนผู้มีรายได้จากการให้เช่า วิชาชีพอิสระ รับเหมา หรือธุรกิจ ต้องยื่นเพิ่มช่วงกลางปีสำหรับรายได้ 6 เดือนแรกภายในกันยายน นอกจากนี้ แม้ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากมีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี ก็ยังคงต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี การยื่นตรงเวลาช่วยหลีกเลี่ยงค่าปรับและควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรเสมอ
บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้พึงประเมินตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไปต่อปีต้องยื่นภาษี โดยอัตราภาษีเป็นแบบขั้นบันได เริ่มจากยกเว้นภาษีสำหรับรายได้ 0-150,000 บาท และเพิ่มขึ้นตามช่วงรายได้จนถึง 35% สำหรับรายได้เกิน 5 ล้านบาท ทั้งนี้ การคำนวณภาษีจะใช้เงินได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ซึ่งผู้เสียภาษีสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากค่าลดหย่อนต่าง ๆ และการลงทุนในกองทุน RMF, SSF เพื่อลดภาระภาษีได้ แม้รายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี แต่หากเกิน 120,000 บาท ก็ยังต้องยื่นแบบแสดงรายการ การเข้าใจเรื่องภาษีจะช่วยในการวางแผนการเงินและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอาจดูซับซ้อน แต่เมื่อเข้าใจขั้นตอนพื้นฐาน จะสามารถประเมินภาระภาษีของตนเองได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ เจ้าของธุรกิจ หรือมีรายได้จากหลายแหล่ง การทำความเข้าใจกับขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้วางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
1. คำนวณเงินได้พึงประเมิน: รวบรวมรายได้ทั้งหมดในปีภาษี เช่น เงินเดือน โบนัส รายได้จากการประกอบอาชีพ รายได้จากการลงทุน ฯลฯ
2. หักค่าใช้จ่าย: หักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งรายได้ ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา ฯลฯ (สำหรับมนุษย์เงินเดือน สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของเงินเดือนและโบนัส ไม่เกิน 100,000 บาท)
3. หักค่าลดหย่อน: หักค่าลดหย่อนตามสิทธิ์ที่ผู้เสียภาษีมี เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนคู่สมรส ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนประกันสังคม ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต ค่าลดหย่อน RMF/SSF ฯลฯ
4. คำนวณเงินได้สุทธิ: นำเงินได้พึงประเมินมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ผลลัพธ์ที่ได้คือเงินได้สุทธิ
5. คำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า: คำนวณทีละขั้นและนำมารวมกัน ตามอัตราต่อไปนี้:
0 - 150,000 บาท : 0%
150,001 - 300,000 บาท : 5%
300,001 - 500,000 บาท : 10%
500,001 - 750,000 บาท : 15%
750,001 - 1,000,000 บาท : 20%
1,000,001 - 2,000,000 บาท : 25%
2,000,001 - 5,000,000 บาท : 30%
5,000,001 บาทขึ้นไป : 35%
สูตรคำนวณภาษีแต่ละขั้น: ภาษี = (เงินได้สุทธิในแต่ละขั้น - จุดเริ่มต้นของขั้นนั้น) x อัตราภาษีของขั้นนั้น
6. รวมภาษีที่ต้องชำระ = ผลรวมของภาษีในทุกขั้นที่คำนวณได้
7. หักภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ถ้ามี) = ผลลัพธ์จากข้อ 6 - ภาษีที่ถูกหักไว้ล่วงหน้า
8. คำนวณภาษีที่ต้องชำระเพิ่มหรือได้รับคืน = ผลลัพธ์จากข้อ 7 (ถ้าเป็นบวกคือต้องชำระเพิ่ม, ถ้าเป็นลบคือได้รับคืน)
หมายเหตุ:
เพื่อให้เข้าใจขั้นตอนการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างการคำนวณจากสถานการณ์จำลองกัน ตัวอย่างนี้จะแสดงวิธีการคำนวณภาษีแบบละเอียด ตั้งแต่การรวมรายได้ การหักค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพรวมของกระบวนการคำนวณภาษีทั้งหมด
ตัวอย่าง: นาย ก. อายุ 35 ปี สมรสแล้ว มีบุตร 1 คน
1. รายรับ
3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินประกันสังคม และที่อยู่อาศัย
4. ประกัน
5. กองทุนอื่นๆ
6. คำนวณภาษี
ขั้นตอนที่ 1: รวมเงินได้พึงประเมิน
เงินเดือน: 50,000 x 12 = 600,000 บาท
โบนัส: 100,000 บาท
รายได้อื่นๆ: 60,000 บาท รวมเงินได้พึงประเมิน: 760,000 บาท
ขั้นตอนที่ 2: หักค่าใช้จ่าย
เงินเดือนและโบนัส: (600,000 + 100,000) x 50% = 350,000 บาท (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท)
รายได้อื่นๆ: 60,000 x 50% = 30,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย: 100,000 + 30,000 = 130,000 บาท
ขั้นตอนที่ 3: หักค่าลดหย่อน
ส่วนตัว: 60,000 บาท
คู่สมรส: 60,000 บาท
บุตร: 30,000 บาท
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: 50,000 x 12 x 3% = 18,000 บาท
ประกันสังคม: 750 x 12 = 9,000 บาท
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย: 80,000 บาท (ไม่เกิน 100,000 บาท)
ประกันชีวิตและสุขภาพ: 20,000 + 15,000 = 35,000 บาท (ไม่เกิน 100,000 บาท)
RMF: 30,000 บาท
SSF: 20,000 บาท (หมายเหตุ: RMF และ SSF รวมกันไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 500,000 บาท) รวมค่าลดหย่อน: 342,000 บาท
ขั้นตอนที่ 4: คำนวณเงินได้สุทธิ เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = 760,000 - 130,000 - 342,000 = 288,000 บาท
ขั้นตอนที่ 5: คำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า
0 - 150,000 บาท: 0 บาท
150,001 - 288,000 บาท: (288,000 - 150,000) x 5% = 6,900 บาท
สรุป: นาย ก. ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีเป็นเงิน 6,900 บาท
การลดหย่อนภาษีเป็นวิธีที่ช่วยให้ประหยัดเงินได้อย่างถูกกฎหมาย โดยการนำค่าใช้จ่ายบางประเภทมาหักออกจากรายได้ก่อนคำนวณภาษี ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนนี้จะแนะนำรายการลดหย่อนภาษีที่สำคัญ แบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจและวางแผนการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างครบถ้วน มาดูกันว่ามีรายการอะไรบ้างที่สามารถนำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้
กลุ่มที่ 1: ค่าลดหย่อนพื้นฐาน
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส: 60,000 บาท
3. ค่าลดหย่อนบุตร:
4. ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท
5. ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา: ลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคน (รวมบิดามารดาของคู่สมรส) บิดามารดาต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
6. ค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ: ลดหย่อนได้ 60,000 บาทต่อคน
กลุ่มที่ 2: ค่าลดหย่อน/ยกเว้น ด้านการออมและการลงทุน
หมายเหตุ: การลงทุนในกองทุน RMF, SSF, PVD, กบข., กอช. และประกันชีวิตแบบบำนาญ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
กลุ่มที่ 3: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายภาครัฐ
1. Easy e-Receipt 2567
ลดหย่อนได้ไม่เกิน 50,000 บาท ตามที่จ่ายจริง
สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการที่มีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ระยะเวลา: 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567
รวมถึงสินค้า OTOP และหนังสือ (รวม E-Book)
2. ค่าท่องเที่ยวเมืองรอง 2567
ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท ตามที่จ่ายจริง
สำหรับ 55 จังหวัดรอง
ครอบคลุมค่าบริการท่องเที่ยว ค่าที่พัก และแพ็คเกจทัวร์
ระยะเวลา: 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน 2567 (รอประกาศเป็นกฎหมาย)
3. ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
สำหรับการซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโด ห้องชุด
4. ค่าสร้างบ้านใหม่ 2567-2568
ลดหย่อนได้ 10,000 บาท ต่อค่าก่อสร้างทุก 1 ล้านบาท (รวม VAT แล้ว)
รวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาท
จำกัด 1 หลัง มูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท
ระยะเวลา: 9 เมษายน 2567 – 31 ธันวาคม 2568
หมายเหตุ: มาตรการเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของรัฐบาล ผู้เสียภาษีควรติดตามข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรเพื่อการวางแผนภาษีที่เหมาะสม
1. เงินบริจาคทั่วไป
2. เงินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์
3. เงินบริจาคให้พรรคการเมือง
หมายเหตุ
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แม้จะดูยุ่งยาก แต่การเข้าใจขั้นตอน วิธีการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จะช่วยให้ผู้เสียภาษีวางแผนการเงิน จัดการภาระภาษี และประหยัดเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้
การทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตเพื่อวางแผนเกษียณ ยังช่วยให้ได้รับความคุ้มครอง วางแผนอนาคต และใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์กรมสรรพากร - https://www.rd.go.th/63765.html
เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา ได้รับยกเว้นตามมาตรา 42(28) แห่งประมวลรัษฎากร
หากมีเงินได้จากการให้เช่าเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(5) และมีเงินได้ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน รวมจำนวน 480,000 บาท จึงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.94 ภายในเดือนกันยายน
รางวัลสลากกินแบ่งของรัฐบาล ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามมาตรา 42(11) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ต้องนำมายื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.94
เป็นการบรรเทาภาระภาษี หากไม่มีการยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.94 ภ.ง.ด.94 จะต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและชำระภาษีเป็นเงินจำนวนมาก ทำให้เป็นภาระสำหรับผู้มีเงินได้
คู่มือขอคืนภาษี รู้ก่อน ยื่นก่อน ได้เงินคืนไว ครบ จบ ในที่เดียว
เลือกประกันสะสมทรัพย์ที่ไหนดี ที่คุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการออมเงินระยะยาว
ลดหย่อนภาษีแบบเจาะลึกพร้อมวิธีใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้คุ้มค่าที่สุด
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ