ข้ามไปหน้าหลัก
การจัดการด้านการเงิน

Active Income vs. Passive Income

04/2024
coins

 

โดยทั่วไปแล้วแหล่งที่มาของรายได้หรือรายรับนั้นมีโดยกัน 2 ประเภท ทั้งนี้หากเราลองทำความเข้าใจในประเภทของรายได้แล้ว ก็จะพบว่าจะมีข้อดีข้อเสียของตัวมันเองเช่นกัน ฉะนั้นหากเราเข้าใจก่อน ก็จะเตรียมการวางแผนเรื่องเงินรายได้ไว้เสียแต่เนิ่นๆ

Active Income คืออะไร

Active Income คือ รายได้ที่เกิดขึ้นเมื่อเราทำงาน ถ้าเกิดวันใดหยุดงานหรือทำงานไม่ได้ก็จะไม่ได้รับรายได้ เช่น เปิดร้านขายของ งานรับจ้างรายวัน นับรวมถึงพนักงานเงินเดือนด้วย แต่ก็จะมีความยืดหยุ่นกว่า ต่างกันตรงที่รับเงินจากสัญญาว่าจ้างเป็นรายเดือน บางวันที่ป่วยไม่สามารถทำงานได้ แต่ก็ยังได้รับเงินตามสิทธิการลาป่วย หรือสิทธิลาพักร้อน

ข้อดี: สามารถเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น จากการเพิ่มเวลาทำงานให้มากขึ้น หรือเพิ่มขึ้นจากความสามารถของตัวเอง ซึ่งเราสามารถพัฒนาได้เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนจากการทำงานใดๆ ซึ่งผลตอบแทนโดยทั่วไปก็จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทักษะความเชี่ยวชาญด้วยเช่นกัน

ข้อเสีย: ก็อย่างที่ทราบว่ารายได้มาจากการทำงาน ฉะนั้นต้องแลกมาด้วยเวลา ลงแรงกายแรงใจเพื่อแลกผลตอบแทน และในบางอาชีพอายุขัยก็เป็นข้อจำกัดของระยะเวลาทำงาน

 

 


Passive Income คืออะไร

Passive Income คือ รายได้ที่ไม่ต้องใช้เวลาทำงานเพื่อแลกเงิน แต่สามารถได้รับผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของทรัพย์สินใดสิ่งหนึ่ง เช่น การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า การลงทุนในทรัพย์สินทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุน พันธบัตร ฯลฯ

ข้อดี: มีอิสระมากกว่า คือได้เงินมาโดยไม่ต้องแลกด้วยการทำงาน อาจจะทำเล็กๆ น้อยๆ แบบไม่เต็มเวลา เช่น การเก็บค่าเช่า โดยรวมๆ ก็ถือเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน ที่เรียกว่า อิสรภาพทางการเงิน

ข้อเสีย: ต้องมีหรือเป็นเจ้าของในทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้นั้นๆ เสียก่อน ซึ่งก่อนจะได้มาอาจจะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อได้มา หรือต้องใช้เวลาและรอคอยเป็นเวลานานๆ เสมือนการปลูกต้นไม้ไว้จนกว่าจะโตแล้วถึงจะสามารถเก็บเกี่ยวดอกผลมาใช้ประโยชน์ได้

ถึงรายได้ทั้งสองแบบจะมีข้อดีและข้อเสีย แต่หากเราวางแผนการเงินไว้เสียก่อนล่วงหน้า เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน ในวัยทำงานงาน เราควรบริหารเงิน active income ที่ได้รับมา ทยอยเก็บหรือลงทุนไว้ในทรัพย์สินที่จะสร้าง passive income ให้เราในอนาคตไว้ตามกำลังที่เรามี เพื่อให้ชีวิตในบั้นปลายที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีแม้จะเกษียณอายุไม่ได้ทำงานแล้วก็ตาม

 

 

1. ทำประกันชีวิต หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

การทำประกันชีวิตหรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถสร้างรายได้แบบ  Passive income ได้ เพราะมีแบบประกันที่มีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรับเงินคืนทุกปีตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ทำไว้


โดย ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ขอแนะนำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เอ็กซ์ตร้า 90/15 ชำระเบี้ยเพียง 15 ปี ให้คุณสะสม passive income ได้ด้วยผลตอบแทนที่แน่นอน
รับเงินคืนทุกปีตั้งแต่ครบปีกรมธรรม์แรก และรับยาวนานจนปีกรมธรรม์ที่มีอายุครบ 89 ปี

 

  • คุ้มค่า ด้วยเงินคืนรายปีต่อเนื่องตลอดสัญญา และรับเงินคืนเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่ออายุครบ 61-89 ปี

    • ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 จนถึงสิ้นปีกรมธรรม์ที่มีอายุครบ 60 ปี รับเงินคืนปีละ 2.25%*
    • ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่มีอายุครบ 61 ปี รับเงินคืนปีละ 10%* และเงินคืนจะเพิ่มสูงขึ้นอีกทุกปี ปีละ 0.5* จนถึงสิ้นปีกรมธรรม์ที่มีอายุครบ 89 ปี ซึ่งจะได้รับเงินคืนสูงถึง 24%* รวมรับเงินคืนสูงสุด 493%*
       
  • เพิ่มค่า เลือกสะสมเงินคืนไว้กับบริษัทฯ โดยได้รับดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 2% ต่อปี
  • แน่นอน รับเงินก้อน 100%* เมื่อครบกำหนดสัญญา ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่มีอายุครบ 90 ปี
  • หมดห่วง ด้วยความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต แทนความห่วงใยส่งต่อให้คนที่คุณรัก
  • ลดหย่อนได้ เบี้ยประกันภัยสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร

 

2. ฝากเงินในธนาคาร

การฝากเงินในธนาคารเป็นอีกวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการสร้าง Passive Income ซึ่งเป็นที่นิยมมาก โดยจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนด ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเภทของบัญชีและยอดเงินที่ฝากไว้ เช่น การฝากเงิน 500,000 บาทในบัญชีเงินฝากประจำในธนาคารแห่งหนึ่งที่มีอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ย 10,000 บาท เป็นต้น

 

3. ลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้

เป็นวิธีที่สามารถสร้าง Passive income ได้โดยให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย ที่มีความเสี่ยงที่ต่ำพอ ๆ กันกับฝากเงินธนาคาร แต่ให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่า โดยจำนวนดอกเบี้ยที่ได้จะขึ้นอยู่กับบริษัทที่เราไปลงทุนในตราสารหนี้ว่ามีความผลประกอบการอย่างไร และมีความน่าเชื่อถือพอที่จะจ่ายดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอหรือไม่

 

4. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโดมิเนียมและอาคารพาณิชย์ เพื่อปล่อยเช่า เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณสร้างรายได้แบบ Passive income ได้ ตัวอย่างเช่น

การลงทุนคอนโดเพื่อการปล่อยเช่า โดยการปล่อยเช่าที่ดีควรให้ผลตอบแทนคุ้มเกิน 7 % ซึ่งวิธีการ

คำนวนให้นำ ค่าเช่าต่อเดือน คูณด้วย 12 แล้วหาร ด้วยราคาคอนโดที่ซื้อมา คิดเป็น เปอร์เซนต์ หาก ได้ผลตอบแทน เกิน 7% ถือว่ามีความคุ้มค่าเพราะ สูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 3 ปีแรกประมาณ 2% - 3% อย่างไรก็ตามผลตอบแทนที่สูงอาจมาพร้อมความเสี่ยงที่สูง ดังนั้นแนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

 

5. การลงทุนในกองทุนรวม

การลงทุนในกองทุนรวม คือ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น ตราสารหนี้ ทองคำ รวมถึงหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการลงทุนผ่าน ผู้จัดการกองทุน โดยให้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลตามนโยบายของกองทุน

 

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

 

ติดต่อเรา 

ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ