
โรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน จุดเริ่มต้นสารพัดโรคที่ไม่ควรมองข้าม
ทุก ๆ นาทีที่เข็มนาฬิกาเดินหน้า มีหัวใจหลายดวงที่หยุดเต้นอย่างไม่มีวันกลับมา โรคหัวใจไม่เพียงคร่าชีวิตคนไทยมากถึง 70,000 รายในปี 2565 แต่ยังทิ้งร่องรอยความสูญเสียไว้ในครอบครัวอีกนับไม่ถ้วน แม้ว่าโรคหัวใจมักจะแฝงตัวอยู่ในสัญญาณเตือนที่คลุมเครือ จนบางครั้งอาจไม่ทันได้สังเกต แต่การเรียนรู้ที่จะ "ฟัง" เสียงของหัวใจตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ การเข้าใจภาษาที่หัวใจพยายามสื่อสารจะช่วยให้สามารถดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
บทความนี้จะพามาเรียนรู้วิธีอ่านภาษาที่หัวใจพยายามสื่อสาร ด้วยเทคนิคการตรวจสอบอาการเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถตอบรับสัญญาณเตือนจากหัวใจได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
โรคหัวใจ หรือ Heart Disease หมายถึง ความผิดปกติของอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อหัวใจเกิดความบกพร่องในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นที่กล้ามเนื้อหัวใจ ลิ้นหัวใจ หรือระบบไฟฟ้าของหัวใจ ย่อมส่งผลให้ประสิทธิภาพการนำพาออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ ลดลง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายตามมา
โรคหัวใจแบ่งออกเป็น 6 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีอาการแตกต่างกัน ดังนี้
ระดับไขมันในเลือดสูงเกินไป ส่งผลให้เกิดการสะสมในผนังหลอดเลือด จนทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบแคบลง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดที่มีแรงต้านสูง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผนังหลอดเลือดเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ความเสื่อมของหลอดเลือด ทำให้ความยืดหยุ่นลดลง ไม่สามารถรับแรงดันเลือดได้ดีเหมือนเดิม อาจนำไปสู่การอุดตันและการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือดได้ง่ายขึ้น
ระบบการทำงานของหัวใจ อาจเกิดความผิดปกติได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ โรคประจำตัวอย่างเบาหวาน หรือปัจจัยที่รบกวนระบบการไหลเวียนเลือด
สุขภาพจิตใจ ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของหัวใจ ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความโกรธ ล้วนส่งผลต่อการเต้นของหัวใจและความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการขาดการออกกำลังกาย ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
ปัจจัยทางพันธุกรรม ก็มีส่วนสำคัญ โดยผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะในวัยหนุ่มสาว มักมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
การเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้สามารถป้องกันและดูแลสุขภาพหัวใจได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการใช้ชีวิตให้เอื้อต่อสุขภาพหัวใจที่ดี
หัวใจของมนุษย์เป็นอวัยวะที่มีขนาดประมาณเท่ากำปั้น ภายในมีลักษะเป็นกล้ามเนื้อที่กลวง โดยหัวใจจะอยู่ในบริเวณกึ่งกลางของอก เยื้องไปฝั่งข้างซ้ายของร่างกายเล็กน้อย ซึ่งตั้งอยู่ภายใต้กระดูกหน้าอก ตำแหน่งที่อยู่ไปทางซ้ายเล็กน้อยนี้ช่วยให้หัวใจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย
เป็นการตรวจที่ควรทำในช่วงเช้าหลังตื่นนอน โดยต้องงดกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว และงดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง วิธีตรวจทำได้โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวางบนข้อมือ นับการเต้น 30 วินาทีแล้วคูณสอง สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงควรตรวจ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อหาค่าเฉลี่ย โดยหัวใจที่ทำงานปกติจะเต้นอย่างสม่ำเสมอโดยจะอยู่ที่ 60-100 ครั้งต่อนาที ซึ่งหากใครที่หัวใจเต้นเิน 150 ครั้งต่อนาที ถือว่ามีภาวะหัวใจเต้นเร็วมากเข้าขั้นอันตราย
การวัดความดันโลหิตเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ควรวัดต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน วันละ 4 ครั้ง คือช่วงเช้าหลังตื่นนอน จำนวน 2 ครั้ง และก่อนเข้านอนจำนวน 2 ครั้ง โดยต้องพักอย่างน้อย 30 นาทีก่อนวัด และเว้นระยะ 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ สูบบุหรี่ หรือออกกำลังกาย ขณะวัดให้นั่งหลังตรง เท้าวางราบกับพื้น วางแขนระดับเดียวกับหัวใจ
สังเกตว่าเมื่อทำกิจกรรมเดียวกับคนทั่วไป รู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติหรือไม่ การหายใจที่ผิดปกติจะไม่สัมพันธ์กับความต้องการออกซิเจนของร่างกาย เช่น เหนื่อยมากผิดปกติเมื่อเดินระยะสั้นๆ หรือเหนื่อยแม้ขณะนั่งพัก
แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ บวมแบบกดแล้วบุ๋มและไม่บุ๋ม โดยทดสอบด้วยการกดบริเวณที่บวมค้างไว้ 5-10 วินาที สังเกตรอยบุ๋มที่เกิดขึ้น อาการบวมอาจพบได้ที่ขา ข้อเท้า เท้า หน้า และท้อง อย่างไรก็ตาม อาการบวมอาจเกิดจากสาเหตุอื่นนอกเหนือจากโรคหัวใจ
ด้วย Thai CV risk score เหมาะสำหรับคนไทยอายุ 35-70 ปีที่ไม่เคยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด และไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจหรือโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ การประเมินจะคำนวณโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 10 ปีข้างหน้า โดยพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
คำเตือน: การตรวจด้วยตนเองเป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้น ไม่สามารถใช้วินิจฉัยโรคได้ หากพบความผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำและได้รับการรักษาที่เหมาะสม
8 วิธีป้องกันโรคหัวใจที่ควรทำเป็นประจำเพื่อสุขภาพหัวใจที่ดีในระยะยาว
การเรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณของหัวใจด้วยตนเองเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจชีพจร การวัดความดันโลหิต การสังเกตอาการเหนื่อยง่ายผิดปกติ หรือการประเมินความเสี่ยง ทุกวิธีล้วนมีประโยชน์ในการคัดกรองโรคหัวใจเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม การตรวจสุขภาพประจำปีและการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางยังคงมีความสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพบความผิดปกติที่น่ากังวล การวินิจฉัยและการรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยป้องกันความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้
นอกจากการดูแลสุขภาพด้วยการตรวจคัดกรองแล้ว การมีประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมการรักษาโรคหัวใจก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคหัวใจนั้นค่อนข้างสูง การมีหลักประกันที่คุ้มครองค่าใช้จ่ายจะช่วยลดภาระทางการเงิน และทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง พร้อมใช้ชีวิตได้เต็มที่ในทุกๆ วัน
หมายเหตุ : ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง ทั้งนี้ การรับประกันภัยเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของบริษัทฯ รายละเอียดและเงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก
คุณเป็นโรคหัวใจหรือไม่? โรคหัวใจตรวจด้วยวิธีใดได้บ้าง - โรงพยาบาลศิครินทร์
5 วิธีตรวจเช็ค ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ | Hfocus.org
โรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน จุดเริ่มต้นสารพัดโรคที่ไม่ควรมองข้าม
อันตรายของความดันโลหิตสูง ค้นหาสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา
7 สุดยอดอาหารบำรุงหัวใจขาดเลือด
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ