ปฏิเสธไม่ได้ว่าออฟฟิศซินโดรมกลายเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่เกิดจากปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่เราเองก็อาจไม่ทันได้รู้ตัว ซึ่งพบได้บ่อยในกลุ่มวัยทำงานที่ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ก้มดู โทรศัพท์มือถือนาน ๆ นั่งจ้องคอมพิวเตอร์ทั้งวัน หรือยุ่งจนลืมปรับเปลี่ยนอิริยาบถท่าทาง และหยุดพัก
การละเลยสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการบาดเจ็บของมัดกล้ามเนื้อที่เราใช้งานมันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฟังเผิน ๆ ก็ดูไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร แต่ถ้าเกิดเป็นขึ้นมาแล้วจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตได้ไม่น้อยเลย ชับบ์จึงขอชวนทุกคนมารู้จักกับออฟฟิศซินโดรมให้มากขึ้น ทั้งลักษณะอาการ การรักษา และที่สำคัญคือวิธีป้องกัน เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
สารบัญ
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด รวมถึงอาการปวดหรือชาจากอาการอักเสบจากเนื้อเยื่อและเอ็น ซึ่งเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อมัดเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน มักเกิดกับวัยทำงาน ที่ต้องนั่งทำงานในออฟฟิศ หรือใช้คอมพิวเตอร์และมือถือทำงานเป็นประจำ และไม่ค่อยได้เปลี่ยนท่าทาง หรืออยู่ในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสมนาน ๆ เช่น นั่งไขว่ห้างประจำ นั่งตัวงอ หรือการก้มหน้านาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้น ถูกใช้งานซ้ำ ๆ จนเกิดการหดเกร็ง หรือยืดค้างในรูปแบบเดิมบ่อย ๆ จนเกิดการบาดเจ็บ หรืออาจขมวดเป็นก้อนตึง ทำให้เกิดอาการปวดตามมา
นอกจากนี้ การทำงานด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน ยังทำให้กล้ามเนื้อ กระดูกข้อต่อ เอ็น และเส้นประสาทเสียสมดุล ทั้งยังส่งกระทบต่อระบบร่างกายอื่น ๆ เช่น ระบบการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองติดขัด หรือระบบย่อยอาหารมีปัญหา เป็นต้น
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนทำงานที่มักเกิดจากอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม ความเครียดสะสม และพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน โดยมีตัวอย่างกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมดังนี้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา ถือเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ซึ่งเป็นป้องกันและรักษาที่ยั่งยืนกว่า โดยสามารถทำได้ดังนี้
1. ปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ลองการกำหนดเวลาพักเป็นช่วง ๆ เช่น ทุก 2 ชั่วโมงหรืออาจจะเร็วกว่านั้น แล้วลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวหรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปรับเปลี่ยนท่าทางบ่อย ๆ ไม่ค้างอยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป
ที่สำคัญควรเลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ที่ความเหมาะสมกับสรีระ ควรปรับระดับของการนั่งที่ถูกต้อง และปรับท่านั่งให้ถูกต้อง คือ นั่งหลังตรง จอคอมพิวเตอร์จะต้องอยู่ในระดับสายตา ไม่ก้มหรือเงย และหัวไหล่ไม่ยกขณะทำงาน
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ ด้วยวิธีต่าง ๆ
ประกันสุขภาพ Basic Work & Play คุ้มครองออฟฟิศซินโดรม
โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ/ทางเดินอาหาร โรคไต และโรคมะเร็ง
หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละระดับของอาการ
1. การยืดกล้ามเนื้อด้วยวิธีที่ถูกต้อง
การยืดกล้ามเนื้อเป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยลดอาการปวดตึงจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน เปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-60 นาที และเลือกท่ายืดเหยียดที่เหมาะสมกับอาการ เช่น การยืดคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ ทำเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น
2. การรักษาด้วยยา
หากมีอาการปวดมากจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต อาจต้องใช้ยาช่วย เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้อักเสบ หรือยาคลายเครียด ซึ่งช่วยลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อและลดอาการอักเสบ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์และใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ เพื่อความปลอดภัย
3. รักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด โดยนักกายภาพบำบัด
กายภาพบำบัดเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดอาการปวดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น โดยนักกายภาพบำบัดจะใช้เทคนิคเฉพาะ เช่น การยืดกล้ามเนื้อ การนวดเพื่อคลายพังผืด หรือการใช้เครื่องมือช่วยรักษา เช่น เครื่องมือกายภาพบำบัดคลื่นกระแทก (Shock Wave) ซึ่งจะใช้คลื่นกระแทกเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเร่งกระบวนการซ่อมแซมของกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง
4. บำบัดด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือศาสตร์ทางเลือก
5. ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและตรวจวินิจฉัยโรคออฟฟิศซินโดรม
หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการปวดรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง เช่น แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู หรือออร์โธปิดิกส์ เพื่อรับการวินิจฉัยและหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น X-ray หรือ MRI เพื่อประเมินสภาพกล้ามเนื้อและข้อต่อให้ละเอียดขึ้น
การอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนาน ๆ หรือทำงานในท่าเดิมนาน ๆ นอกจากจะทำให้เปิดอาการปวดแล้ว ยังสามารถนำไปสู่โรคอื่น ๆ ได้ด้วย อาทิ การอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือจากการจับเมาส์ในท่าเดิมนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนเกิดอาการอักเสบเกิดเป็นพังผืดยึดจับบริเวณนั้น ๆ เป็นจำนวนมาก รวมถึงโรคไมเกรน กรดไหลย้อน และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น รู้อย่างนี้แล้ว เรามาเริ่มต้นปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตกันตั้งแต่วันนี้เลย
แม้ว่าออฟฟิศซินโดรม จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่ภาวะเรื้อรังของอาการ ก็อาจนำไปสู่โรคที่ร้ายแรงขึ้นได้ อาทิ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ดังนั้นการปรับพฤติกรรมในแต่ละวันที่เราทำได้ง่าย ๆ อาทิ หยุดพักบ้าง ลุกยืดเส้นยืดสายระหว่างวันบ้าง จัดโต๊ะทำงาน หรือสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงาน รวมถึงคลายเครียดด้วยกิจกรรมที่ดีต่อใจของเรา ถือเป็นการป้องกันที่เริ่มต้นได้ที่ตัวเราและยั่งยืนที่สุด เพื่อสุขภาพใจที่ดี และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
สำหรับใครที่เลี่ยงความเสี่ยงไม่ได้ อาจค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมทีละน้อย รวมถึงเตรียมพร้อมความในการดูแลรักษาไว้แต่เนิ่น ๆ กับประกันสุขภาพ Basic Work & Play จากชับบ์สามัคคี ที่เน้นดูแลกลุ่มโรคออฟฟิศซินโดรมให้คุณอุ่นใจ กับความคุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ครอบคลุมทั้ง OPD และ IPD อาทิ ค่าหมอ ค่ายา การทำกายภาพบำบัด รวมไปถึงแพทย์ทางเลือก คุ้มครองโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท นิ้วล็อก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน บ้านหมุน และยังเลือกเสริมความคุ้มครองโรคจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ/ระบบทางเดินอาหาร โรคไต และมะเร็งทุกระยะ ได้อีกด้วย เบาใจเรื่องค่ารักษาโรคร้ายแรง ไม่ต้องสำรองจ่าย เริ่มดูแลสุขภาพได้ตั้งแต่วันนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
หมายเหตุ
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2025 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง