เป็นก้อนใต้รักแร้ กดเจ็บ สาเหตุและสัญญาณอันตรายที่ควรระวัง

ข้ามไปหน้าหลัก
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

เป็นก้อนใต้รักแร้ กดเจ็บ สาเหตุและสัญญาณอันตรายที่ควรระวัง

01/2025
เป็นก้อนใต้รักแร้ กดเจ็บ, เจ็บรักแร้, ก้อนใต้รักแร้, เจ็บใต้รักแร้ มีก้อนเล็กๆ, ต่อมไขมันใต้รักแร้อักเสบ, ปวดใต้รักแร้


พบก้อนเล็กๆ ใต้รักแร้ที่กดแล้วเจ็บ ไม่แน่ใจว่าควรกังวลแค่ไหน? ในขณะที่บางคนคิดว่าเป็นเพียงต่อมน้ำเหลืองบวม แต่ในความเป็นจริง ก้อนใต้รักแร้อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ โดยเฉพาะเมื่อก้อนนั้นมีลักษณะผิดปกติ เช่น โตขึ้นเรื่อยๆ กดเจ็บมาก หรือไม่ยุบหายไปเอง

แม้ว่าก้อนใต้รักแร้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่การรู้จักสังเกตความผิดปกติและเข้าใจสัญญาณเตือนคือสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับสาเหตุของก้อนใต้รักแร้ที่พบบ่อย พร้อมเรียนรู้สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
 

ก้อนใต้รักแร้คืออะไร

ก้อนใต้รักแร้คือกลุ่มของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ที่เกิดการสะสมตัวจนเป็นก้อนขนาดต่าง ๆ ใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้ สาเหตุของการเกิดก้อนนั้นมีหลายประการ เช่น การอักเสบของต่อมน้ำเหลือง การติดเชื้อของรูขุมขน เนื้องอกไขมัน หรือในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านม ก้อนบางชนิดอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่เจ็บขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรง
 

ลักษณะของก้อนใต้รักแร้

ก้อนใต้รักแร้มักมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามสาเหตุ โดยทั่วไปอาจพบได้ดังนี้

  • ก้อนกลมเล็ก ขนาด 0.5-2 เซนติเมตร
  • ก้อนนิ่มหรือแข็ง สามารถขยับได้หรือติดแน่น
  • อาจพบเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อน
  • บางครั้งอาจมีสีผิวที่เปลี่ยนไปบริเวณรอบๆ ก้อน
     

อาการที่พบร่วม

นอกจากการพบก้อนแล้ว อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น

  • อาการปวดหรือกดเจ็บบริเวณก้อน

  • รู้สึกร้อนหรือแดงบริเวณรอบๆ

  • มีไข้ในบางกรณี

  • ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงอาจบวมโต

  • บางรายอาจมีหนองหรือของเหลวซึมออกมา


สาเหตุของก้อนใต้รักแร้

การเกิดก้อนใต้รักแร้มีสาเหตุได้หลายประการ แต่ละสาเหตุมีลักษณะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจถึงสาเหตุต่างๆ จะช่วยในการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

1. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของการเกิดก้อนใต้รักแร้ เมื่อร่างกายติดเชื้อหรือมีการอักเสบในบริเวณใกล้เคียง ต่อมน้ำเหลืองจะทำหน้าที่กรองและกำจัดเชื้อโรค ทำให้เกิดการบวมและอักเสบ โดยมักพบในกรณีที่มีการติดเชื้อที่แขน มือ หรือหน้าอก ต่อมน้ำเหลืองที่อักเสบมักมีอาการเจ็บเมื่อกดและอาจมีไข้ร่วมด้วย
 

2. รูขุมขนอักเสบ

รูขุมขนอักเสบเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนบริเวณใต้รักแร้ สาเหตุมักมาจากการโกนขนที่ไม่ถูกวิธี การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่อุดตันรูขุมขน หรือการสวมเสื้อผ้าที่คับเกินไป ทำให้เกิดการระคายเคืองและการติดเชื้อตามมา ก้อนที่เกิดจากรูขุมขนอักเสบมักมีขนาดเล็ก แดง และเจ็บ บางครั้งอาจมีหนองร่วมด้วย
 

3. เนื้องอกไขมัน

เนื้องอกไขมัน หรือที่เรียกว่า Lipoma เป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง ลักษณะเฉพาะคือเป็นก้อนนิ่ม กลมหรือรี สามารถเคลื่อนที่ได้เมื่อใช้นิ้วกด และมักไม่มีอาการเจ็บ เนื้องอกไขมันส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่อาจต้องผ่าตัดออกหากมีขนาดใหญ่หรือก่อให้เกิดความรำคาญ
 

4. มะเร็งเต้านม

แม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่ก้อนใต้รักแร้อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านมที่แพร่กระจายมายังต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ ก้อนในกรณีนี้มักมีลักษณะแข็ง ไม่เคลื่อนที่ และอาจพบร่วมกับก้อนที่เต้านม การตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาทันท่วงทีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลการรักษา
 

5. สาเหตุอื่นๆ

นอกจากสาเหตุหลักข้างต้น ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดก้อนใต้รักแร้ได้ เช่น การติดเชื้อราบริเวณผิวหนัง ซึ่งมักพบในผู้ที่มีเหงื่อออกมาก หรือการเกิดถุงน้ำ ซึ่งเป็นถุงที่มีของเหลวอยู่ภายใน การอักเสบของต่อมเหงื่อก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่พบได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะต่อมเหงื่อทำงานมากผิดปกติ รวมถึงการแพ้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่อาจทำให้เกิดการอักเสบและบวมเป็นก้อนได้
 


สัญญาณอันตรายที่ควรระวัง

1. การเปลี่ยนแปลงของก้อน

การสังเกตการเปลี่ยนแปลงของก้อนใต้รักแร้อย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ การขยายขนาดอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้น การเปลี่ยนรูปร่างจากเดิมที่เคยกลมมาเป็นรูปร่างไม่สม่ำเสมอ หรือการเปลี่ยนแปลงความแข็งของก้อนจากที่เคยนิ่มกลายเป็นแข็งและไม่เคลื่อนที่
 

2. อาการเจ็บผิดปกติ

อาการเจ็บที่ผิดปกติอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะรุนแรง โดยเฉพาะอาการปวดที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การปวดที่แผ่กระจายไปยังบริเวณใกล้เคียงหรือปวดร้าวไปยังแขนและไหล่ รวมถึงอาการปวดที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการนอนหลับ ล้วนเป็นสัญญาณที่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์
 

3. ความผิดปกติของผิวหนังบริเวณรอบๆ

ผิวหนังบริเวณรอบก้อนที่มีการเปลี่ยนแปลงอาจบ่งชี้ถึงการอักเสบหรือการติดเชื้อ สังเกตได้จากผิวหนังที่มีสีแดงเข้มขึ้น มีความร้อนสูงผิดปกติ หรือมีการบวมที่ขยายวงกว้าง นอกจากนี้ หากมีการแตกของผิวหนังหรือมีของเหลวไหลออกมาจากบริเวณก้อน ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว
 


ความแตกต่างระหว่างก้อนมะเร็งและเนื้องอก

เนื้องอกและมะเร็งมีความแตกต่างกันอย่างสำคัญ เนื้องอกเป็นเนื้อเยื่อที่เติบโตผิดปกติและอาจส่งผลต่ออวัยวะใกล้เคียง ซึ่งบางครั้งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ เนื้องอกสามารถแบ่งออกเป็นสองชนิด คือ ชนิดธรรมดาและชนิดร้าย (มะเร็ง) สำหรับเนื้องอกธรรมดาจะมีการเจริญเติบโตช้า ไม่ลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะอื่น ๆ และไม่มีการแพร่กระจายผ่านกระแสเลือด ซึ่งมักรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ส่วนมะเร็งเป็นเนื้องอกชนิดร้ายที่เซลล์มีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะจนระบบการทำงานของร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิต
 

การป้องกันและเฝ้าระวัง

1. การรักษาความสะอาด

การดูแลความสะอาดบริเวณใต้รักแร้เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดก้อน ควรทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช็ดให้แห้งสนิท และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมระคายเคืองผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะสมกับสภาพผิวก็มีความสำคัญในการป้องกันการระคายเคือง
 

2. การตรวจร่างกายด้วยตนเอง

การตรวจร่างกายด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรก ควรตรวจสอบบริเวณใต้รักแร้เดือนละครั้ง สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ก้อน หรืออาการผิดปกติอื่นๆ หากพบความผิดปกติควรบันทึกการเปลี่ยนแปลงและปรึกษาแพทย์
 

3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดก้อนใต้รักแร้ได้ เช่น การสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี การหลีกเลี่ยงการโกนขนที่รุนแรงเกินไป และการรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

การพบก้อนใต้รักแร้อาจสร้างความกังวลใจ แต่การรู้จักสังเกตอาการและเข้าใจสัญญาณเตือนจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าเมื่อใดควรพบแพทย์ ที่สำคัญคือ ไม่ควรรอจนอาการรุนแรงหรือก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะการตรวจพบและรักษาแต่เนิ่นๆ มักให้ผลการรักษาที่ดีกว่าและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า

ในวันที่ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นเรื่อยๆ การมีประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะแผนประกันที่ครอบคลุมทั้งการตรวจวินิจฉัย การผ่าตัด และการรักษาต่อเนื่อง เพราะบางครั้งแม้จะเริ่มจากก้อนเล็กๆ แต่อาจต้องผ่านการตรวจหลายขั้นตอนเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ นอกจากนี้ การมีประกันโรคร้ายแรงยังเป็นตัวช่วยสำคัญ หากพบว่าก้อนนั้นเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องใช้การรักษาระยะยาว

การดูแลสุขภาพที่ดีต้องครอบคลุมทั้งการสังเกตความผิดปกติ การพบแพทย์เมื่อมีสัญญาณเตือน และการเตรียมพร้อมด้านการเงิน เพราะเมื่อมีหลักประกันที่ดี จะช่วยให้กล้าตัดสินใจเข้ารับการตรวจรักษาได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย



​​ขอบคุณข้อมูลจาก​

  • ก้อนใต้รักแร้ สาเหตุและการรักษา - pobpad
     

คำถามที่พบบ่อย

ก้อนใต้รักแร้มักจะหายเองได้ในกรณีที่เกิดจากสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง เช่น การติดเชื้อเล็กน้อยหรือการอักเสบทั่วไป โดยปกติแล้วจะใช้เวลาไม่นานในการยุบลง แต่หากก้อนนั้นเกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรง เช่น มะเร็ง ควรได้รับการตรวจและรักษาจากแพทย์อย่างเหมาะสม

ระยะเวลาในการรักษาก้อนใต้รักแร้แตกต่างกันไปตามสาเหตุและความรุนแรง กรณีที่เกิดจากการติดเชื้อทั่วไปอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ แต่หากเป็นเนื้องอกหรือมะเร็ง ระยะเวลาการรักษาอาจยาวนานกว่าและต้องติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

โอกาสการกลับมาเป็นซ้ำขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดก้อน กรณีที่เกิดจากรูขุมขนอักเสบหรือการติดเชื้อ อาจกลับมาเป็นซ้ำได้หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเอง การป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำทำได้โดยการดูแลสุขอนามัยที่ดีและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

การผ่าตัดก้อนใต้รักแร้ไม่จำเป็นในทุกกรณี แพทย์จะพิจารณาความจำเป็นในการผ่าตัดจากหลายปัจจัย เช่น ขนาดของก้อน สาเหตุ และผลการตรวจชิ้นเนื้อ โดยทั่วไปการผ่าตัดมักพิจารณาในกรณีที่เป็นเนื้องอกขนาดใหญ่ มะเร็ง หรือก้อนที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น

บทความ

รู้ค่ารักษามะเร็งก่อนรักษา ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
 

ถามว่า "ค่ารักษามะเร็งแพงแค่ไหน?" คำตอบที่สะท้อนความจริงคือ "แพงกว่าที่คิด และสูงขึ้นทุกปี" จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ค่ารักษามะเร็งในประเทศไทยเริ่มต้นที่หลักแสนและอาจพุ่งสูงถึงหลายล้านบาทต่อราย

เช็กสิทธิประกันสังคมด้วยเลขบัตรประชาชน ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

ใน​​ปัจจุบัน​​ที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจกังวลถึงความมั่นคงในชีวิตหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย คลอดบุตร ว่างงาน หรือเสียชีวิต ประกันสังคม จึงเปรียบเสมือนหลักประกัน

ก้อนเนื้อแบบไหนอันตราย เข้าใจความต่างของเนื้องอก ก้อนมะเร็ง และซีสต์

เคยคลำเจอก้อนเนื้อแปลกๆ บนร่างกายแล้วรู้สึกกังวลหรือไม่? หลายคนอาจสงสัยว่าก้อนเนื้อที่พบเป็นเพียง “ซีสต์” หรืออาจเป็น “เนื้องอก” และที่น่ากลัวที่สุดคือ “มะเร็ง” แต่ละประเภทมีความแตกต่าง

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา 

ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ