ข้ามไปหน้าหลัก
วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

ถอดบทเรียนห่วงโซ่อุปทานด้านวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพชีวิตและความเป็นอยู่ (Life Science) 3 ประการที่ได้จากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19

08/2022
solution bottles

ในอุตสาหกรรมที่อาศัยนวัตกรรมเป็นหลัก บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้าน Life Science ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องโดยนำเสนอเทคโนโลยีและการรักษาใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดเป็นประจำทุกปี

แม้ว่าการพัฒนาใหม่ ๆ ในแต่ละครั้งจะช่วยให้สุขภาพและชีวิตของผู้คนดีขึ้น แต่สิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บทางกาย การเจ็บป่วย อันเกิดจากผลข้างเคียงของการใช้เครื่องมือหรือยาชนิดใหม่อยู่ ซึ่งจะยังไม่ปรากฏให้เห็นจนกว่าจะมีการรวบรวมข้อมูลในระดับที่เหมาะสมเพื่อใช้ในกระบวนการทดลองทางคลินิกที่ยาวนาน

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทเหล่านี้ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่ความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานไปจนถึงข้อบกพร่องทางไซเบอร์ที่ขยายขอบเขตออกไปเมื่ออุตสาหกรรมมีลักษณะเชื่อมโยงกันทั่วโลกมากยิ่งขึ้น 

 

ห่วงโซ่อุปทานด้าน Life Science ระหว่างช่วงการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19

บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้าน Life Science หลายแห่งได้ว่าจ้างหน่วยงานภายนอกสำหรับ
การดำเนินงานส่วนใหญ่ ตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการผลิต การขายและการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บข้อมูล แต่ห่วงโซ่อุปทานที่ขยายไปทั่วโลกก็ยังคงมีความเปราะบาง ดังที่เราได้เห็นในช่วงของการระบาดใหญ่

ความต้องการอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API) ชุดทดสอบและวัคซีนที่มีมากเป็นพิเศษเผยให้เห็นจุดบอดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนแรงงาน วัตถุดิบและกำลังการผลิต

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลิตที่อยู่เป็นกลุ่มในบางภูมิภาคของโลก ห่วงโซ่อุปทานจะมีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบ เช่น การปิดโรงงานเป็นระยะเวลายาวนานในมาเลเซียส่งผลให้เกิดการขาดแคลนถุงมือแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากตลาดมาเลเซียผลิตถุงมือแพทย์ได้ประมาณร้อยละ 65 ของอุปทานของโลก

ถึงแม้จะมีเกิดการหยุดชะงักเหล่านี้ แต่ภาคส่วนนี้ก็ยังประสบความสำเร็จในการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดที่ต้องเผชิญและช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้

 

จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้เมื่อปัญหาการแพร่ระบาดค่อย ๆ หมดไป

ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากผ่านพ้นสภาวะการแพร่ระบาดมาอย่างยาวนานกว่าสองปี ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียนรู้จากบทเรียนที่ได้รับและเรียนรู้วิวัฒนาการของความเสี่ยง ในขณะที่ภาคส่วนชีววิทยาศาสตร์ก็มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ในอนาคตไปพร้อม ๆ กับการจัดการผลกระทบจากโควิด-19 ด้วย

 

เทคโนโลยีช่วยทำให้เกิดห่วงโซ่อุปทานได้ แต่ก็ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพบกับความเสี่ยงด้านไซเบอร์ด้วยเช่นกัน

เรามีการพึ่งพาเทคโนโลยีที่มากขึ้น (เช่น คลาวด์, IoT, AI, บล็อกเชน, หุ่นยนต์) เพื่อทำให้เกิดห่วงโซ่อุปทานได้ดีขึ้นและเพื่อให้สามารถติดตามและตรวจสอบทั้งปัจจัยการผลิตและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้ อีกทั้งเทคโนโลยียังช่วยเอาชนะปัญหาในการกระจายสินค้าได้ด้วย เช่น การใช้โดรนอัตโนมัติสำหรับการจัดส่งสินค้าไปยังพื้นที่ห่างไกล


ท้ายที่สุด การรวมเทคโนโลยีเข้าไว้ในห่วงโซ่อุปทานยังหมายถึงการที่กิจกรรมมากมายในห่วงโซ่อุปทานได้กลายเป็นกิจกรรมเสมือนจริง โดยมีข้อมูลปริมาณมากถูกจัดเก็บไว้ในระบบคลาวด์

 

ผลกระทบของความเสี่ยง

เทคโนโลยีมาพร้อมกับปัญหาในเรื่องการจัดการความเสี่ยงของตนเอง

  • ผู้ให้บริการและซัพพลายเออร์สามารถเข้าถึงระบบของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้าน Life Science ได้โดยตรง ผ่านแพลตฟอร์มการสั่งซื้อที่เชื่อมต่อถึงกัน เมื่อมีการเข้าถึงเครือข่ายของแพลตฟอร์ม อาจมีเหตุที่เกิดผลกระทบต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องในระบบได้
  • ปริมาณข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่จัดเก็บและทำธุรกรรมระหว่างฝ่ายต่าง ๆ เพียงอย่างเดียวอาจก่อให้เกิดการละเมิดการรักษาความลับหรือความเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่สำคัญได้


บริษัทที่พึ่งพาวัสดุสำหรับระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (just-in-time) อาจได้รับผลกระทบด้านต้นทุนเมื่อซัพพลายเออร์หยุดการผลิตไป

  • ตัวอย่างเช่น การโจมตีทางไซเบอร์อาจทำให้การผลิตในโรงงานผลิตหยุดชะงักได้โดยการแฮ็กเข้าไปในรายชื่อลูกค้าหรืออุปกรณ์การผลิตขั้นสูง (เช่น เครื่องพิมพ์ 3 มิติ) ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่โรงงานจะกลับมาดำเนินการตามปกติได้


ความเป็นจริงก็คือความหายนะทางไซเบอร์อย่างเต็มรูปแบบในบางครั้ง อาจไม่จำเป็นต้องเกิดจากกลุ่มอาชญากร แต่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีแบบฟิชชิ่ง หรือการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะวิกฤตแก่หลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้

 

หวนกลับสู่การสร้างกำลังการผลิตแบบ Nearshoring หรือ reshoring เพื่อย้ายการผลิตสินค้ากลับไปยังประเทศของตนเอง

นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ขึ้น บริษัทยาขนาดใหญ่ (หรือแม้แต่รัฐบาล) ต่างก็มองหาการสร้างกำลังการผลิตในประเทศมากขึ้นหรือลดการพึ่งพาประเทศซัพพลายเออร์รายใหญ่ ตัวอย่างเช่น บริษัทแห่งหนึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลียเพื่อผลิต PPE ในประเทศ โดยมีลูกค้าเพียงรายเดียวคือรัฐบาล


ในส่วนของ API บริษัทด้านการดูแลสุขภาพหลายแห่งในปัจจุบันได้ผลิตAPI ทั่วโลก จากนั้นนำมาใช้ในในภูมิภาค นอกจากนั้น บริษัทเหล่านั้นต้องการพึ่งพาประเทศจีนและอินเดียซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของโลกให้น้อยลง โดยจัดหา API ด้วยกำลังการผลิตจากที่อื่น เช่น ประเทศไทยหรือมาเลเซีย

 

ผลกระทบของความเสี่ยง

การเปลี่ยนไปสู่ห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศที่มากขึ้นจะต้องอาศัยเวลาในการดำเนินการด้วยความระมัดระวังหรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย

  • บริษัทต่าง ๆ จะต้องพิจารณากฎระเบียบ รับรองซัพพลายเออร์รายใหม่ แจ้งการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อหน่วยงานในประเทศและดูแลวัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่จัดส่ง


ความสามารถของตลาดในประเทศมีความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป การติดตามตรวจสอบจะทำให้เห็นปัญหาสำคัญที่มองไม่เห็นระหว่างการขนส่งบ่อยครั้งได้ ซึ่งมีผลกับทั้งตำแหน่งผลิตภัณฑ์และข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้

  • ตัวอย่างเช่น บริษัทยาและผู้จัดส่งสินค้าจะเก็บบันทึกการติดตามอุณหภูมิของตนเองไว้ซึ่งก็มักจะไม่ตรงกัน


การอ้างสิทธิ์อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันเมื่อการฝากขายผลิตภัณฑ์ยาอยู่นอกเหนือพารามิเตอร์ที่ตั้งไว้ (อุณหภูมิ แรงสั่นสะเทือน ความชื้น จำนวนครั้งที่เคลื่อนย้ายสินค้า) ระหว่างการขนส่งหรือการเก็บรักษา

 

ความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย

ความเสี่ยงที่เกิดจากการแทรกแซงของรัฐบาล การล็อกดาวน์ และการแข่งขันด้านทรัพยากรทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความหลากหลายในระดับสูงในแง่มุมของบริษัทที่ดำเนินกิจการด้าน Life Science

ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ขึ้น มีบางอย่างที่ผิดพลาดอย่างมากจนทำให้สูญเสียซัพพลายเออร์ไป ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ มองหา

ผู้ให้บริการที่แตกต่างกันตั้งแต่สองหรือสามรายที่จัดหาส่วนประกอบเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนลงแรงไปกับสิ่งเดียว

อย่างไรก็ตาม การกระจายความเสี่ยงดังกล่าวอาจหมายถึงปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นสำหรับทีมควบคุมคุณภาพด้วย โดยต้องมี การตรวจสอบคุณภาพของส่วนประกอบทุกชิ้นจากซัพพลายเออร์ทุกราย

 

สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง

องค์กรที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอาจต้องเผชิญกับหนี้สินที่เกิดจากปัญหาของวัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่ซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตตามสัญญาใช้

  • องค์กรเหล่านั้นอาจมีการประกันความรับผิดในประเทศที่จำกัดเฉพาะประเทศของตน ซึ่งหมายความว่าจะต้องดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ ในศาลภายในประเทศเท่านั้น
  • ในทางตรงกันข้าม การประกันภัยในเขตอำนาจศาลทั่วโลกจะให้ความคุ้มครองสำหรับการเรียกร้องทางกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดในโลกก็ตาม


ดังนั้นสิ่งสำคัญคือจะต้องกลั่นกรองและเลือกคู่ค้าที่เหมาะสม และกระชับความสัมพันธ์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าอย่างระมัดระวังมากขึ้น บริษัทต่าง ๆ จะต้องจัดลำดับความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงและทบทวนการประกันภัยที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอจากภัยคุกคามจากห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นใหม่

การต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์และผู้ผลิตภายนอกอย่างมากทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจด้าน Life Science ไม่รอดพ้นจากการหยุดชะงักตลอดห่วงโซ่อุปทาน ข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และบางสาเหตุก็อยู่นอกเหนือการควบคุม (เช่น คลัสเตอร์โควิด-19 ในหมู่พนักงานของซัพพลายเออร์ที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนพนักงานและความสามารถในการปฏิบัติตามกำหนดเวลาการผลิตและการจัดจำหน่าย)

ในโลกที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดวิกฤตขึ้นได้นี้ นอกจากจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าซัพพลายเออร์ของตนมีแผนการฟื้นฟูที่มั่นคงแล้ว ความคุ้มครองธุรกิจหยุดชะงัก สามารถที่จะปกป้องบริษัทที่ทำธุรกิจด้าน Life Science ได้เช่นกัน โดยจะให้ความคุ้มครอง ด้านผลกระทบทางการเงินและการดำเนินงานอันเนื่องมาจากการล่มสลายของห่วงโซ่อุปทาน 

นอกจากนี้ บริษัทที่ทำธุรกิจด้าน Life Science ยังจำเป็นต้องเข้าใจส่วนประกอบของห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญและการพึ่งพาอาศัยกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อลดระยะเวลาและผลกระทบของการหยุดชะงักใด ๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงและบริการด้านวิศวกรรมเพื่อช่วยระบุช่องโหว่ในห่วงโซ่อุปทานของ Life Science แบบ end-to-end

 

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา
ติดต่อเรา

ให้ชับบ์ปกป้องดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการปกป้องคุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ