ข้ามไปหน้าหลัก
ประกันภัยรถยนต์

ประกันรถยนต์คืออะไร? ความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าใจ

04/2025
ประกันรถยนต์ คืออะไร

 

 


แม้จะขับขี่อย่างระมัดระวังแค่ไหน เหตุไม่คาดฝันก็ยังเกิดขึ้นได้เสมอ การทำประกันรถยนต์ไว้จะช่วยให้เราวางแผนรับมือความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความคุ้มครองความเสียหายให้ทั้งผู้ขับขี่และทรัพย์สิน รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุ เพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ให้กับผู้ใช้รถทุกคน แล้วประกันรถยนต์แบบไหน เหมาะกับเราบ้าง ชับบ์ชวนมาหาคำตอบไปด้วยกัน 
 

ประกันรถยนต์คืออะไร?

ประกันรถยนต์ เป็นการประกันภัยเพื่อคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดจากการใช้รถยนต์ เช่น ความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ ได้แก่ ความเสียหาย บุบสลาย การสูญหายของตัวรถยนต์ ไฟไหม้ รวมไปถึงความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัยและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น และคุ้มครองเพิ่มเติมตามเอกสารแนบท้าย
 

ประกันรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง?

เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนน นอกจากความเสียหายที่อาจเกิดกับรถยนต์แล้ว ประกันอุบัติเหตุ ยังให้ความคุ้มครองชีวิต และอนามัยของผู้ขับขี่ ซึ่งขอบเขตความครอบคลุมของความคุ้มครองนั้น จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ ที่ผู้เอาประกันภัยได้ตกลงทำไว้กับบริษัทประกันภัย โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีความครอบคลุมหลักดังนี้

  • ความคุ้มครองพื้นฐานของประกันรถยนต์ คือ ความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน ค่าประกันตัว และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ทางกฎหมาย
  • ความคุ้มครองการชน หรือคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก คุ้มครองในกรณีที่เกิดการชน โดยให้ทุนประกันสำหรับการซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่รถ ความคุ้มครองการชนอาจคุ้มครองผู้ขับขี่ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ เป็นต้น
  • คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากความเสียหาย ที่เกิดจากการชนและกรณีอื่น ๆ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่งความคุ้มครองนี้อาจรวมถึงรถยนต์ถูกโจรกรรม ความเสียหายจากสภาพอากาศ การก่อกวน ความเสี่ยงต่าง ๆ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น

ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท? แตกต่างกันอย่างไร?

ประกันภัยรถยนต์มี 2 ประเภท ได้แก่ การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งประกันภัยทั้ง 2 ประเภทนี้ ต่างให้ความคุ้มครองที่สำคัญกับผู้ขับขี่รถยนต์ไม่แพ้กัน เราลองมาทำความรู้จักประกันรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทให้มากขึ้น

  1. การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (Compulsory Third Party Insurance) คือ การประกันภัยรถยนต์ที่กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถทุกคันมีหน้าที่ต้องจัดให้มีการประกันภัย ตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดไว้ คือ การประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เรียกว่า “การประกันภัย พ.ร.บ.” (เว้นแต่ รถที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ระบุยกเว้นไว้ เช่น รถของสำนักพระราชวัง รถสำหรับเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ รถของกระทรวง ทบวง กรม เป็นต้น) ทั้งนี้ หากเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถไม่ทำประกันภัยตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนด จะมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ (ปรับไม่เกิน 10,000 บาท)

    โดยที่การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนั้นมีขึ้นเพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถทุก  คน ได้รับการชดใช้และเยียวยาความสูญเสียหรือเสียหาย เมื่อประสบภัยจากรถที่ใช้ หรืออยู่ในทาง หรือประสบภัยจากสิ่งที่บรรทุกติดตั้งมากับรถ ส่งผลให้ได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัย ซึ่งรวมไปถึง ค่ารักษาพยาบาลตามจริง ค่าชดเชยรายวันกรณีรักษาตัวในโรงพยาบาล ในระหว่างระยะเวลาประกันภัย โดยผู้ประสบภัยที่เป็นผู้ขับขี่รถที่เป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

  2. การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) คือ การประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยความสมัครใจของเจ้าของรถยนต์ ผู้ครอบครองรถยนต์ หรือผู้ขับขี่รถยนต์ ไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับโดยกฎหมายแต่อย่างใด เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวรถ หรือความรับผิดของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อบุคคลภายนอก ซึ่งเราสามารถเลือกทำประกันรถประเภทนี้ เสริมความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเพื่อความอุ่นใจ และความคุ้มครองที่หลากหลายและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น 


ในปัจจุบันการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่เป็นมาตรฐาน แบ่งความคุ้มครองได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

  1. การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
  2. การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2
  3. การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3
  4. การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 4 หรือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
  5. การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 5 หรือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองภัยเฉพาะ แบบประกัน 2 พลัส (2+) แบบประกัน 3 พลัส (3+)

โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกทำประกันภัยตามความคุ้มครองที่ต้องการได้ และยังสามารถเลือกได้ว่าจะระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ ทั้งนี้ในปี 2567 ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดให้ การทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท สำหรับใช้งานส่วนบุคคลนั้น ต้องทำประกันภัย แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ และนำพฤติกรรมการขับขี่่ ประวัติการขับขี่มาใช้ในการคำนวณค่าเบี้ย เพื่อสร้างวินัยการขับขี่ดี และเพิ่มความปลอดภัยให้กับการใช้รถใช้ถนน

ในขณะที่การทำประกันสำหรับรถใช้งานอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการใช้งานส่วนบุคคล จะต้องทำประกันภัยแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่เท่านั้น โดยมีผลบังคับใช้กับรถใหม่ป้ายแดง 1 มิถุนายน 2568 และมีผลบังคับใช้กับรถทุกคันตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ผู้ขับขี่และเจ้าของรถจึงควรศึกษารายละเอียดเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมและให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันภัย
 

รู้จักประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ 5 ประเภท ให้มากยิ่งขึ้น

1. ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือที่เรียกกันว่าประกันชั้น 1 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมสูงสุด เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ  ทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้ขับขี่และคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ

ความคุ้มครอง

  • คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์
  • คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและรถยนต์ไฟไหม้
  • คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์มาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์ เช่น กันชนหน้ารถแตกหักจากการขับรถชนต้นไม้ ประตูรถได้รับความเสียหายจากการถูกเฉี่ยวชนกิ่งไม้หล่นใส่หลังคารถ เป็นต้น

เหมาะกับใคร

  • รถใหม่ป้ายแดง รวมถึงรถที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี
  • ผู้ขับขี่มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก
  • รถที่ขับระยะทางไกลเป็นประจำ
  • ผู้ที่มองหาความคุ้มครองแบบครบวงจร และมีงบเพียงพอ
     

2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัยชั้น 2 แต่จะเพิ่มความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก แบบมีคู่กรณี

ความคุ้มครอง

·      คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ

  • คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
  • คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่คุ้มครองการชนที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ขับชนเสาไฟ กำแพง หรือเกิดอุบัติเหตุเพียงลำพัง

เหมาะกับใคร

  • รถยนต์ที่ใช้งานเกิน 7 ปีแต่ไม่เกิน 15 ปีที่ต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าประเภท 2
  • ผู้มีประวัติขับขี่ดี
  • ผู้ที่มองหาประกันราคาดี ที่ให้ความคุ้มครองที่สำคัญ

3. ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์

ความคุ้มครอง

  • คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ตามความเสียหายที่แท้จริงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฏหมาย
  • คุ้มครองกรณีรถยนต์ ส่วนใดของรถ รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งสูญหาย จากการลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์
  • กรณีรถยนต์ไฟไหม้ ทั้งที่เกิดจากตัวรถเอง รวมถึงการไหม้ที่สืบเนื่องจากสาเหตุอื่น

เหมาะกับใคร

  • รถมือสอง หรือรถที่มีอายุ 10-20 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมขับขี่ที่ดีในระดับหนึ่ง หรือมีความชำนาญในการขับรถ
  • ผู้ที่ไม่ได้ใช้รถเป็นประจำ


ประกันรถยนต์ชั้น 1 Chubb Smart Drive คุ้มครองเหนือระดับ
ดูแลคุณและรถให้ปลอดภัยยิ่งกว่า รับประกันภัยอายุรถสูงสุด 15 ปี


4. ประกันรถยนต์ชั้น 3+
เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายแบบประกันภัยประเภท 3 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก แบบมีคู่กรณี ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำท่วม การโจรกรรมหรือสูญหาย

ความคุ้มครอง

  • คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
  • คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีชนกับยานพาหนะทางบก

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเทียบเท่าประกันชั้น 2+
  • ผู้ที่ใช้รถน้อย
  • รถยนต์ที่มีอายุมาก
  • ผู้ที่มองหาประกันภัยที่ค่าเบี้ยไม่สูง
  • มีพื้นที่จอดรถที่ปลอดภัย
  • ผู้ขับขี่ที่ชำนาญแล้ว
  • รถยนต์ที่ไม่ได้ติดแก๊ส

5. ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันภัยพื้นฐานที่ให้ความคุ้มครองน้อยกว่า ประเภท 1 และประเภท 2 โดยคุ้มครองเฉพาะความรับผิดตามกฏหมายต่อบุคคลภายนอก เมื่อผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น ซึ่งความคุ้มครองจะไม่เกินวงเงินการเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ 

ความคุ้มครอง

  • คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัย
  • ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

เหมาะกับใคร

  • รถมือสอง หรือรถเก่าที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
  • คนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถเป็นประจำ หรือขับรถนาน ๆ ครั้ง
  • รถยนต์จอดอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงในการเกิดเหตุรถหาย หรือไฟไหม้
     

การทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ คุ้มค่าหรือไม่?

การทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะช่วยเพิ่มความคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น และเป็นหลักประกันที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วยให้ ผู้ขับขี่สามารถใช้รถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกประเภทของประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ พฤติกรรมการขับขี่ รวมถึงงบประมาณที่แตกกันของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยี่ห้อ รุ่น และอายุของรถยนต์ ก็เป็นอีกปัจจัยในการเลือกแผนที่เหมาะสมได้

การมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) แล้วเสริมด้วยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจยิ่งขึ้น จากความความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งค่าเสียหายของรถคู่กรณี รถของผู้ขับขี่เอง รวมถึงค่ารักษาพยาบาลของทั้งคู่กรณีและผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมีบริการที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุอีกด้วย เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รถยกและลากจูง หรือแม้แต่รถทดแทนระหว่างซ่อม ช่วยคลายความกังวลเมื่อเหตุไม่คาดฝัน
 

5 เคล็ดลับทำประกันรถยนต์อย่างคุ้มค่า

  1. เลือกความคุ้มครองที่จำเป็นกับตัวผู้ขับขี่ สไตล์การขับรถและประเภทรถ รถที่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น มีถุงลมนิรภัยและเบรกป้องกันล้อล็อกจะส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันลดลงได้
  2. ศึกษาและเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกัน เปรียบเทียบเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันแต่ละประเภทจากหลาย ๆ แห่ง แล้วจึงตัดสินใจเลือกข้อเสนอที่ตอบโจทย์กับเราที่สุด ทั้งด้านความคุ้มครองและราคาค่าเบี้ยประกันภัย
  3. พิจารณาความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย รวมถึงความพร้อมในการให้บริการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
  4. การจ่ายเสียหายส่วนแรกเพิ่มเติม หมายความว่าต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งจะช่วยให้รักษาอัตราค่าเบี้ยประกันราคาต่ำไว้ได้
  5. ขับขี่ด้วยความรอบคอบอยู่เสมอ ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ รวมถึงรักษาประวัติการขับขี่ที่ดี เพื่อประโยชน์ด้านส่วนลดเบี้ยประวัติดี และรับเบี้ยประกันที่ต่ำลงสำหรับปีถัดไปเมื่อขับดีอย่างต่อเนื่อง
     

ประกันรถยนต์ชั้น 1 Chubb Smart Drive จากชับบ์สามัคคีประกันภัย ความคุ้มครองที่คุ้มค่า

เมื่อพิจารณาความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นตัวเลือกที่ครอบคลุม ครบวงจรที่สุด เหมาะกับผู้ที่ต้องการความอุ่นใจสูงสุด เตรียมพร้อมรับมือกับทุกเรื่องไม่คาดฝัน 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จากชับบ์สามัคคี คุ้มครองครอบคลุมเหนือระดับ ด้วยเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่เข้าถึงได้  ราคาเริ่มต้นเพียง 12,900 บาท พร้อมบริการเสริมพิเศษ Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลคุณและรถให้ปลอดภัยทุกการขับขี่
 

 

  • อายุรถยนต์ที่รับประกันสูงสุดถึง 15 ปี
  • คุ้มครองการถูกโจรกรรมทรัพย์สินในรถยนต์ สูงสุด 25,000 บาท
  • มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมอื่น ๆ นอกเหนือจากอุปกรณ์ตกแต่งตามมาตรฐานจากโรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์สูงสุด 25,000 บาท
  • ชดใช้ค่าสินไหมโดยไม่หักค่าเสื่อมราคา สำหรับความเสียหายต่อเครื่องเสียง กล้องติดรถยนต์ แบตเตอรี่ (ไม่รวมแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า) ของเหลว เช่นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำยาหล่อเย็น น้ำยาเติมหม้อน้ำ เป็นต้น
  • พิเศษ! ด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินเช่น บริการพ่วงแบตเตอรี่ เปลี่ยนยางอะไหล่ เติมน้ำมันฉุกเฉิน ช่างกุญแจ บริการยกลาก ค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางต่อเนื่องหรือค่าที่พักกรณีรถเสียระหว่างการเดินทาง บริการให้คำแนะนำทางโทรศัพท์ 

สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ประกันรถยนต์ชับบ์สามัคคี ขับใกล้ขับไกล มั่นใจในทุกเส้นทาง
 

FAQ ประกันรถยนต์คืออะไร? ความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าใจ

1. วิธีเลือกประกันรถยนต์ให้เหมาะสมควรพิจารณาจากอะไร? 

ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุรถ การใช้งาน งบประมาณ และความคุ้มครองที่ต้องการ หากเป็นรถใหม่หรือมีมูลค่าสูง ควรเลือกประกันชั้น 1 เพื่อความคุ้มครองสูงสุด เช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จาก Chubb Smart Drive ซึ่งมอบความคุ้มครองทั้งจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดของผู้เอาประกันและบุคคลที่สาม รวมถึงภัยธรรมชาติและการโจรกรรม หากเป็นรถเก่า อาจเลือกประกันชั้น 2+ หรือ 3+ เพื่อลดค่าใช้จ่ายแต่ยังมีความคุ้มครองที่เพียงพอ
 

2. รถอายุเกิน 10 ปี ยังทำประกันชั้น 1 ได้ไหม?

รถยนต์อายุเกิน 10 ปี ยังทำประกันชั้น 1 ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท โด1 Chubb Smart Drive ที่รับประกันรถอายุสูงสุดถึง 15 ปี พร้อมคุ้มครองครบทั้งอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ดูแลคุณและรถให้ปลอดภัยยิ่งกว่า

3. รถยนต์ที่ติดไฟแนนซ์ต้องทำประกันประเภทไหน?
 

ส่วนใหญ่ ไฟแนนซ์กำหนดให้ทำประกันชั้น 1 เพื่อคุ้มครองรถที่ยังผ่อนไม่หมด ตามข้อกำหนดของบริษัทสินเชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่ารถมีความคุ้มครองสูงสุดในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือสูญหาย
 

หมายเหตุ

  1. รับประกันภัยโดย บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน)
  2. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  3. เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามกรมธรรม์ประกันภัยและแผนประกันแต่ละแผนตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

 

สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2025 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

 

 

สนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 Chubb Smart Drive
เพื่อประโยชน์สูงสุด และเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ใช่ตามความต้องการ ท่านสามารถตรวจสอบทุนประกันภัยและเบี้ยประกันภัยรถยนต์กับเจ้าหน้าที่

กรุณาระบุชื่อ
กรุณาระบุนามสกุล
กรุณาระบุชื่อ
กรุณาระบุนามสกุล
กรุณาระบุชื่อ
กรุณาระบุนามสกุล
กรุณาระบุชื่อ
กรุณาระบุนามสกุล
กรุณาระบุชื่อ
This field is required


หลังจากท่านคลิกส่งข้อมูล ถือเป็นการยืนยันว่า:

  • ท่านอนุญาตและยินยอมให้บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ หรือผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอก ติดต่อท่านทางอีเมล โทรศัพท์ และ/หรือ SMS เพื่อให้บริการตอบคำถาม หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ท่านสนใจ
  • กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ คลิกที่นี่